ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปฐมสัมมนาสักกะแปล ภาค ๑ - หน้าที่ 232
เป็นต้นว่า " อติวาทิต" นี้ ยอมเป็นไปในอรรถ์ว่า วิวาวณะ ( คือคำประกาศตามปกติของชาวโลก) ดูวง ศัพท์ในประโยคเป็นต้นว่า " รูปเทียง หรือไม่เทียง." เวรุญฐพรมณฑ์ ครั้งนราภลออย่างนั้นแล้ว ลำดับนั้น เห็นพระผู้พระภาคเจ้า ผู้ไม่ทรงทำสามกิจกรรมก็ทรงเป็นต้นแก่ตน จึงราบทูลว่า " ข้าแต่พระโคดม ผู้เจริญ! คำที่ข้าเจ้าได้ฟัง มาแล้วนั้น เป็นเช่นนั้นจริง " อธิบายว่า" คำนี้ในที่ข้าเจ้าได้ฟังมาแล้วนั้น เป็นเช่นนั้นจริง " อธิบายว่า " คำนี้ในที่ข้าเจ้าได้ฟังมาแล้วนั้น เป็นเช่นนั้นจริง " คือข้อที่ฟังเจ้าได้ฟังมาและได้เห็นมานั้น ย่อมสมกัน คือเสมอกัน ได้แก่ความเป็นอย่างเดียวกัน โดยความหมาย." เวรุญฐพรมณฑ์ กล่าวย้ำเรื่องที่ตนได้ฟังมา พร้อมทั้งที่ตนได้เห็นมา อย่างนี้ว่า " ท่านพระโคดม ผู้เจริญ! ไม่กราบไว้ ไม่ลูกบวชพรมณฑ์ ผู้เกิด ผู้ใหญ่ ผู้สาวกกล ผ่านว waterways หรือไม่ชื่อเชิญด้วยอาจนะเลย " เมื่ออธนำ (พระพุทธองค์) จึงราบทูลว่า " ตถี่ โก โคดม น สมุปน- มว" ดังนี้ มืออธิบายว่า " การที่พระองค์ไม่ทรงทำสามกิจกรรมก็ทรงเป็นต้นนั้น ไม่สมควรเลย. [ พระผู้พระภาคเจ้าทรงคัดค้าน ] ลำดับนั้น พระผู้พระภาคเจ้า ไม่ทรงเข้าไปอาศัยทนืออากรคืออกร กล่าวขยิบหย่านท่าน แต่มีพระประสงค์จะทรงกำจัดความไม่รู้นี้ ด้วยพระทุกข์ที่ออกเนื่องเพราะกรณา แล้วแสดงความเหมาะสมแก่พระมณฑลนั้น จึงตรัสว่า " คู่ออนพราหมณ์ ! ในโลก ทั้งโลก มารโลก