ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปฐมสมันตาปะกนักแปล ภาค ๑ หน้า 168
พระราช ครัสลามว่า " ข้ເถะพระคุณเจ้าผู้เจริญ ! ก็ตเมื่อไร
รถเหง้า ( แห่งพระศาสนานั้น ) จักซื้อว่าเป็นอันหยั่งลงแล้ว ?"
พระเถร ทูลว่า " หามาพิสูจ ! ในกาดใด เด็กผู้เกิด
ในเกาะดงพินิจทวีป มีกรมคดีเป็นชาวเกาะดงพินิจทวีป
จักออกบวชในเกาะดงพินิจทวีป แล้วเรียนพระวินัยในเกาะดงพ-
ปิณฑ์ทิวันนั้นเอง ออกจาก ( พระวินัย ) ในเกาะดงพินิจทวีปได้,
ในกาลนั้นรากแห่งพระศาสนา จักชื่อว่าเป็นอันหยั่งลงแล้ว "
พระราช ครัสลามว่า " ข้ເถะพระคุณเจ้าเจริญ ! ก็ติกญู
เช่นนี้ มีอยู่หรือ ?"
พระเถร ทูลว่า " มีอยู่ มาหาพิสูจ ! พระมหาธิติภูวกิ
เป็นผู้สามารถในกิริยมนั้นเน "
พระราช ครัสลามว่า " ข้ເถะพระคุณเจ้าผู้เจริญ ! ข้ເถ้
ควรทำอะไรกัน ไม่นรณมี "
พระเถร ทูลว่า " ควรสร้างมณฑป มาหาพิสูจ ! "
[ พระเจ้าทวนนิมิตสร้างมณฑปเพื่อทำยอดสังครานา ]
พระราช ทรงรับว่า " ละ จะเข้า ! " แล้วรับสั่งให้สร้าง
มณฑปด้วยราชานุภาพ ซึ่งเป็นเช่นกับมณฑปที่พระเจ้าอโศกศตรู-
มหาราช ทรงสร้างในคราวทำมหาสังดิ ( คือสงครามนาคังแรก ) ไว้
ในเนื้อที่ของอาณาเขต ชื่อเขมรรามัญ ( ของพระเจ้ามรรคามัญ ) แล้วทรงรับสั่งให้พราหมณ์งานตามวรครัดตรึงปวง ฝีมือขอในศิลปะ
๑. พนักงานประโคนคณะ, หรืออครวัเทพ.