ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 8
ส่วนปัญญาอันเป็นไปตั้งแต่อุปาจารจนถึงอัปปนา ท่านเรียกว่า อภิญญา
ก็แลปฏิปทานี้นั้น ย่อมเป็นการลำบาก คือเป็นการยาก หมายความว่า
เจริญไม่สะดวกสำหรับคนบางคน เพราะธรรมอันเป็นข้าศึก มีนิวรณ์
เป็นต้นยึด (จิต) โดย (เกิด) ขึ้นท่องเที่ยว (ในจิต) (แต่) เป็นการ
สะดวกสำหรับบางคน เพราะไม่มีธรรมอันเป็นข้าศึกนั้น อภิญญาเล่า
ก็ย่อมเป็นช้า คือเป็นเนือยๆ ไม่เป็นไปฉับพลัน สำหรับคนบางคน
(แต่) เป็นเร็ว คือไม่เป็นเนือยๆ เป็นไปฉับพลันสำหรับบางคน
(พึงทราบวินิจฉัย ) ในปฏิปทาและอภิญญานั้น (ดังนี้) ใน
บรรดาสิ่งสัปปายะและอสัปปายะทั้งหลายก็ดี บุพกิจทั้งหลายมีการตัด
ปลิโพธเป็นต้นก็ดี อัปปนาโกศลทั้งหลายก็ดี ซึ่งข้าพเจ้าจักพรรณนา
ข้างหน้า พระโยคาวจรผู้ใดได้เสพสิ่งอสัปปายะ ปฏิปทาของพระ
โยคาวจรผู้นั้นย่อมเป็นการลำบาก และอภิญญาของเธอก็เป็นช้า
ปฏิปทาของพระโยคาวจรผู้ได้เสพสิ่งสัปปายะ ย่อมเป็นการสะดวก
และอภิญญาก็เป็นเร็ว ส่วนว่าพระโยคาวจรผู้ใด เสพสิ่งอสัปปายะ
ในเบื้องต้นแล้วได้เสพสิ่งสัปปายะในเบื้องปลาย พึงทราบว่าปฏิปทา
และอภิญญาของพระโยคาวจรนั้นก็คละกัน นัยเดียวกันนั้น ปฏิปทา
ของพระโยคาวจรผู้ไม่ทำบุพกิจมีการตัดปลิโพธเป็นต้นให้พร้อมแล้ว
มาประกอบภาวนา ย่อมเป็นการลำบาก โดยบรรยายตรงกันข้าม
ก็เป็นการสะดวก อนึ่ง อภิญญาของผู้ไม่ทำอัปปนาโกศลให้ถึงพร้อม
* มหาฎีกาว่า ที่เรียกอภิญญา เพราะเป็นปัญญาที่วิเศษกว่าปกติปัญญา