ข้อความต้นฉบับในหน้า
*
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 141
ยังปัสสัทธิ ๒ อย่าง คือ กายปัสสัทธิ และจิตตปัสสัทธิให้เกิดบริบูรณ์
ปัสสัทธิเมื่อตั้งครรภ์ไปจนแก่ได้ที่ ย่อมยังสุขทั้ง ๒ อย่าง คือ กายิกสุข
และเจตสิกสุขให้เกิดบริบูรณ์ สุขเมื่อตั้งครรภ์ไปจนแก่ได้ที่ ย่อม
ยังสมาธิ ๓ อย่าง คือขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปปนาสมาธิให้เกิด
บริบูรณ์แล
๕
ในปีติ ๕ อย่างนั้น ผรณาปีติใด ที่เจริญขึ้นเป็นมูลแห่งอัปปนา
สมาธิ จนถึงประกอบเข้ากับสมาธิได้ ผรณาปีตินี้เป็นปีติที่ท่าน
ประสงค์เอาในอรรถนี้
ส่วนบทนอกนี้ ( คือสุข ) มีอรรถดังนี้ ความสำราญชื่อว่า สุข
อีกนัยหนึ่ง ธรรมชาติใดกัดเสีย ( หรือ ) ขุดเสีย ( คือ ) กำจัดเสียด้วยดี
ซึ่งอาพาธในกายและใจ เหตุนั้น ธรรมชาตินั้นจึงชื่อว่าสุข ( ธรรมชาติ
อันกำจัดอาพาธเสียด้วยดี สุขนั้นมีความอร่อยเป็นลักษณะ มีอันพอกพูน
ธรรมทั้งหลายที่สัมปยุตกับสุขเป็นรส ( เป็นกิจ ) มีอันช่วยข่ายสนับสนุน
( สัมปยุตธรรม ) เป็นเครื่องปรากฏ
แม้ว่า เมื่อความแยกกันไม่ได้ในที่ไหนๆ แห่งปีติและสุขนั้น
มีอยู่ก็จริง (แต่) บัณฑิตพึงทราบ (ความต่างกัน )ว่า ความยินดี
เพราะได้อิฏฐารมณ์เป็นปีติ ความเสวยรสแห่งอิฏฐารมณ์ที่ได้แล้ว
เป็นสุข ปีติมีอยู่ในที่ใด สุขย่อมมีในที่นั้น (แต่ว่า ) สุขมีอยู่ในที่ใด
ไม่แน่ว่าปีติจะมีในที่นั้น ปีติท่านสงเคราะห์ในสังขารขันธ์ สุข
มหาฎีกาขยายความว่า สุข นั้น ไม่สละผละออกเหมือนทุกข์ ไม่เฉยอยู่เหมือน
อทุกขมสุข แต่เข้าช่วยเหลือสนับสนุน (สัมปยุตธรรม)