ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 312
เมื่อประชาชนถูกมลทินคือความตระหนี่กลุ้มรุมอยู่ เรา (มา) มีใจ
ปราศจากความตระหนี่อันเป็นตัวมลทินอยู่ มีการสละปล่อยเลย ( ไม่
เสียดายอาลัยหรือหวังผลตอบแทน ) มีมืออันล้างไว้ ( คอยจะหยิบของ
ให้ทาน ) ยินดีในการเสียสละ ควรในการขอ พอใจในการให้และ
การแบ่ง"
ของผู้เป็นทายก
[แก้อรรถ อนุสสรณปาฐะ]
ในปาฐะเหล่านั้น ข้อว่า ลาภา วต เม นั้น คือ มยุห์ วต
ลาภา ( ลาภของเราหนอ ) อธิบายว่า " ลาภทั้งหลายของ
ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพรรณนาไว้หลายนัยเป็นต้นว่า " ... ก็แลผู้เป็น
ทายกนั้นครั้นให้อายุแล้ว ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้อายุอันเป็นของทิพย์บ้าง
เป็นของมนุษย์บ้าง" " ดังนี้เป็นอาทิก็ดี ว่า " ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ชน
เป็นอันมากย่อมคบเขา " ดังนี้ก็ดี ว่า " บุคคลเมื่อดำเนินตามธรรม
ของสัตบุรุษทั้งหลาย ให้ ( ทาน) อยู่ ย่อมเป็นที่รัก"" ดังนี้ก็ดี
เหล่านี้ใด ลาภทั้งหลายเหล่านั้นเป็นส่วนได้ของเราแน่นอน "
ข้อว่า สุทธ์ วต เม (เราได้ดีแล้วหนอ ) ความว่า พระ
ศาสนานี้ หรือว่าอัตภาพมนุษย์นี้ใดที่เราได้แล้ว พระศาสนาหรือ
อัตภาพมนุษย์นั้น ชื่อว่าเราได้ดีแล้วหนอ ถามว่า เพราะอะไร
แก้ว่า เพราะ " เมื่อหมู่สัตว์ถูกมลทินคือความตระหนี่กลุ้มรุมอยู่ เรา
(มา) มีใจปราศจากความตระหนี่อันเป็นตัวมลทินอยู่ ฯลฯ พอใจใน
๑. อง.ปญฺจก. ๒๒/๔๔
๒. อง. ปญฺจก. ๒๒/๔๓ พระบาลีเป็นฉันท์ว่า "ทท์ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู"
ไม่มี ชนา