ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 303
วัตถุใด อันเขานำมาบูชา เหตุนั้น วัตถุนั้น ชื่อว่าอาหนะ
หมายความว่า วัตถุที่เขานำมาแม้แต่ไกลถวายในท่านผู้มีศีลทั้งหลาย
คำว่า อาหุนะ นั่น เป็นเชื่อแห่งปัจจัย ๔ พระสงฆ์เป็นผู้ควรที่จะรับ
อาหนะนั้น เพราะทำอาหนะนั้นให้มีผลมาก เหตุนั้นจึงชื่อ อาหุเนยยะ
(ผู้ควรรับของอันเขานำมาบูชา )
(นัยที่ ๒]
อีกนัยหนึ่ง แม้สมบัติทั้งปวง อันบุคคลมาแม้แต่ไกลพึงบูชา
(คือถวาย ) ในพระสงฆ์นั้น เหตุนั้น พระสงฆ์นั้นจึงชื่อ อาหวนียะ (ผู้
อันบุคคลควรบูชา ) หรือว่า พระสงฆ์ย่อมควรซึ่งอาหวนวัตถุ แม้
แห่งเทพเจ้าทั้งหลายมีท้าวสักกะเป็นต้น เหตุนั้นจึงชื่อ อาหวนียะ (ผู้
ควรของที่เขามาบูชา ) อนึ่ง ไฟอันได้ชื่อว่า อาหวนียะ ของพราหมณ์
ทั้งหลายนี้ใด ซึ่งลัทธิของพวกเขาว่าเป็นของที่ๆของอันบูชาแล้วมีผลมาก
หากว่าไฟนั้นชื่อว่าอาหวนียะ เพราะของที่บุคคลบูชาแล้ว ( ในไฟนั้น )
มีผลมากไซร้ก็พระสงฆ์นี่แหละเป็นอาหวนียะ ( แท้ ) เพราะของที่
บุคคลบูชา ( คือถวาย ) ในพระสงฆ์เป็นสิ่งมีผลมาก (จริงๆ ดังพระ
ผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า
" ก็ชนใด พึงบำเรอไฟอยู่ในป่าสิ้นร้อยปี
ส่วนชนใด พึงบูชาท่านผู้ที่อบรมตนสำเร็จแล้ว
ผู้เดียวแม้ครู่หนึ่ง การบูชานั้นแหละประเสริฐ
กว่า การบูชาไฟสิ้นร้อยปีจะประเสริฐอะไร" "
๑. ควรซึ่งของทานที่แม้เทพเจ้ามีสักกะเป็นต้นถวาย
๒. บุ.ธ. ๒๕/๒๕