ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 28
ในพยัญชนะสักตัวเดียว ตั้งแต่ต้นจนจบ
แม้พระนาคเถระ ผู้อยู่ ณ ภูเขากุรุนธิยคีรี ทอดทิ้งปริยัติถึง ๑๘ ปี
แล้วมาแสดงธาตุกถาแก่ภิกษุทั้งหลาย เมื่อภิกษุเหล่านั้น ( จำเอาไป )
สอบเทียบกับพระเถระคามวาสิกทั้งหลาย ปรากฏว่า ปัญหาแม้ข้อหนึ่ง
ซึ่งมาผิดลำาดับ ก็ไม่มี
က
แม้ในมหาวิหาร พระเถระชื่อจูฬาภัยผู้เป็นตปิฏกะ ( ทรงปิฎก
ทั้ง ๓ ?) มิได้เรียนอรรถกถาเลย (คิดอย่างไรขึ้นมา) ให้คนตีสุวรรณ
เภรีร้องป่าวไปว่า จักปริวัตร "ปิฎก ๓ ในวง (ผู้ศึกษา ) ปัญจนิกาย หมู่
ภิกษุด้วยกัน ( ทราบว่า พระจุฬาภัยไม่มีครูอาจารย์) จึงแสร้งกล่าว
(ค้าน) ว่า " ได้เรียนต่ออาจารย์ไหนมา พระจุฬาภัยก็จงว่าแต่ที่ได้เรียน
ต่ออาจารย์ของตนเถิด เราทั้งหลายไม่ย่อมให้ว่าไปนอกนี้ " แม้พระ
อุปัชฌาย์ ก็ได้ถามเธอมาอุปฐากตนว่า อาวุโส เธอหรือให้ตีเกรี
เธอรับว่า ใช่ พระอุปัชฌาย์จึงถามอีกว่า เพราะเหตุอะไร เธอ
กราบเรียนว่า เธอจักปริวัตรธรรม ( ให้คนฟัง ) พระอุปัชฌาย์ (ลอง)
ถามว่า แน่ะอาวุโสอภัย อาจารย์ทั้งหลายกล่าวบทนี้อย่างไร เธอ
ตอบ ( ทันที ) ว่า กล่าวอย่างนี้ พระอุปัชฌาย์แสร้งปฏิเสธด้วยเสียงว่า
หึหึ เธอก็ตอบใหม่โดยปริยายอื่นๆ ว่า กล่าวอย่างนี้ๆ ถึง ๓ ครั้ง
พระเถระก็ปฏิเสธด้วยเสียง หึหึ ทั้งหมด แล้วกล่าวว่า แน่ะอาวุโส ทาง
ที่เธอกล่าวตอบครั้งแรกนั่นแหละเป็นอาจริยมรรค ละ แต่เพราะเธอ
๑. มหาฎีกาว่า หมายถึงพระเถระทั้งหลายที่อยู่วัดในกรุงอนุราธปุระ
๒. ปริวตฺเตสามิ มหาฎีกาแก้ว่า วณฺณสฺสามิ จักพรรณนา เราเคยแปลว่า " แปล"
คือเปลี่ยนภาษา
๓. ปญจนิกายมณฑเล มหาฎีกาแก้ว่า ทีฆาคมาทิเก ปญจนิกาย สิกขิตปริสาย แก่
บริษัทผู้ศึกษาในนิกาย ๕ มีทีฆนิกายเป็นอาทิ
๔. อาจริยมคโค มหาฎีกาไขความว่า อาจริยาน กถามคโค กถามรรคของอาจารย์