ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 19
จะพรากจากคนในตระกูลไปแม้แต่วิหารใกล้เคียง เพื่อฟังธรรมก็ไม่ได้
( ส่วน ) สำหรับภิกษุลางรูป แม้ (แต่) โยมผู้หญิงโยมผู้ชายก็หาเป็น
ปลิโพธไม่ ดังเช่นภิกษุหนุ่มผู้หลานของพระติสสเถระผู้อยู่ ณ โกรันทุก
วิหาร
มีเรื่องเล่าว่า ภิกษุผู้หนุ่มรูปนั้นได้ไปโรหณชนบทเพื่อเรียนบาลี
ฝ่ายอุบาสิกา ( โยมผู้หญิง ) ผู้เป็นน้องสาวของพระเถระ ก็ถามข่าวเธอกะ
พระเถระอยู่ร่ำไป (จน) วันหนึ่งพระเถระ ( ท่านรำคาญ) คิดว่าจะ
ต้อง ( ไป ) นำภิกษุหนุ่มกลับมา (เสียที ) จึงออกเดินมุ่งหน้าไปโรหณ
ชนบท ข้างภิกษุหนุ่มก็คิดว่า เราอยู่ที่นี่มาก็นานแล้ว บัดนี้เราจะต้อง
( ไป ) เยี่ยมพระอุปัชฌายะและทราบข่าวอุบาสิกาแล้ว (ค่อยกลับ) มา
ดังนี้ แล้วก็ออกจากโรหณชนบทมา ท่านทั้งสองมาเจอกันที่ฝั่งแม่น้ำ
(แห่งหนึ่ง ) ภิกษุหนุ่มนั้นก็ทำ (อุปัชฌาย) วัตรแด่พระเถระที่โคนไม้
ต้นหนึ่ง ท่านถามว่าจะไปไหน ก็เรียนความ (ที่คิด ) นั้น ( ให้ทราบ)
พระเถระจึงว่า เธอทำดีแล้ว แม้อุบาสิกาก็ถาม ( ถึงเธอ ) อยู่มิได้ขาด
ถึงตัวฉันมานี่ก็เพื่อ ( i
(ความกลับไปของเธอ ) นั่นแหละ เธอไปเถิด
ส่วนฉันจะพักจำพรรษานี้ ( ในวิหารแห่งใดแห่งหนึ่ง) ในถิ่นนี้ละ ดังนี้
แล้วส่งภิกษุหนุ่มนั้นไป เธอ ( ไป) ถึง ( โกรันทุก วิหารนั้นในวันเข้า
พรรษาพอดี แม้เสนาสนะที่ได้แก่เธอ ก็คือเสนาสนะที่โยมผู้ชาย
ของเธอให้สร้างไว้นั่นเอง ครั้นวันรุ่งขึ้น (จากวันเข้าพรรษา) โยม
ผู้ชายของเธอมาถาม ( พระเสนาสนคาหาปกะ) ว่า " ท่านเจ้าข้า
เสนาสนะของข้าพเจ้าได้แก่ใคร " ได้ยินว่าได้แก่ภิกษุหนุ่มอาคันตุกะ