ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 162
เพราะว่าชวนะทั้งหลาย อันเป็นลำดับแต่อาวัชชนะในอาวัชชนวสีนั้น
ก็คือชวนะในปัจจเวกขณนันแล
[ทุติยฌาน]
ก็แลพระโยคาวจรผู้บำเพ็ญวสีในวสี ๕ นี้ ออกจากปฐมฌาน
อันคล่องแคล่วแล้ว เห็นโทษในปฐมฌานนั้นว่า สมาบัตินี้มีข้าศึก
คือนิวรณ์อยู่ใกล้ และว่าสมาบัตินี้ยังมีองค์ทรามกำลัง เพราะความ
ที่วิตกวิจารยังเป็นธรรมหยาบ ดังนี้แล้ว พึงทำในใจถึงทุติยฌานโดย
ว่าเป็นธรรมละเอียด ปล่อยวางความพอใจในปฐมฌาน ทำโยคะ
(ความเพียร ) เพื่อบรรลุทุติยฌาน (ต่อไป)
ครั้นเมื่อพระโยคาวจรนั้นออกจากปฐมฌานแล้ว มีสติสัม
ปชัญญะปัจจเวกขณ์องค์ฌานทั้งหลายอยู่ วิตกวิจารปรากฏโดยความ
เป็นองค์หยาบ ปีติ สุข และเอกัคคตาปรากฏโดยความเป็นองค์
ละเอียดในกาลใด ในกาลนั้นเมื่อเธอทำในใจแล้วๆ เล่าๆ ซึ่งนิมิต
นั้นนั่นแล โดยบริกรรมว่า ปฐวี ปฐวี ดังนี้ เพื่อละองค์หยาบ และ
เพื่อได้องค์ละเอียดอยู่ ขณะที่ปรากฏว่าทุติยฌานจักเกิดขึ้น มโน
ทวารวัชชนะย่อมตัดภวังค์ทำปฐวีกสิณนั่นเองเป็นอารมณ์เกิดขึ้น ต่อ
นั้นชวนะ ๔ หรือ ๕ ดวงย่อมแล่นไปในอารมณ์นั้นแล ซึ่งดวงหนึ่ง
ในที่สุด เป็นรูปาวจรจิตมีทุติยฌานดวงที่เหลือเป็นกามาวจรจิต
มีประการดังกล่าวแล้ว ( ในตอนปฐมฌาน มีบริกรรมจิตเป็นต้น ) แล
ก็ด้วยภาวนานุกรมเพียงเท่านี้ พระโยคาวจรนั้นชื่อว่าเข้าถึง
ฌานที่ ๒ อันผ่องใสภายใน มีความที่ใจเป็นหนึ่ง ไม่มีวิตก ไม่มี