ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 251
ในรูปภพก็อย่างนั้น (แต่) ในอรูปภพ ( ปฏิสนธิวิญญาณ ) เป็นปัจจัย
แห่งนามอย่างเดียว
นามรูปในกามภพ เป็นปัจจัยแห่งอายตนะครบ ๖ ในกามภพ
นามรูปในรูปภพเป็นปัจจัยแห่งอายตนะ ๓ ในรูปภพ นามในอรูปภพ
เป็นปัจจัยแห่งอายตนะ ๑ ในอรูปภพ
อายตนะ ๖ ในกามภพเป็นปัจจัยแห่งผัสสะทั้ง 5 ในกามภพ
อายตนะในรูปภพเป็นปัจจัยแห่งผัสสะ ๓ ในรูปภพอายตนะ ๑ ใน
อรูปภพเป็นปัจจัยแห่งผัสสะ ๑ ในอรูปภพ
ผัสสะ ๖ ในกามภพ เป็นปัจจัยแห่งเวทนา ๖ กามภพ ผัสสะ
2 ในรูปภพเป็นปัจจัยแห่งเวทนา ๓ ในรูปภพนั้นด้วยกัน ผัสสะ ๑
ในอรูปภพก็เป็นปัจจัยแห่งเวทนา ๑ ในอรูปภพนั้นด้วยกัน
เวทนา ๖ ในกามภพเป็นปัจจัยแห่งกองตัณหา ๖ ในกามภพ
เวทนา ๓ ในรูปภพเป็นปัจจัยแห่งกองตัณหา ๓ ในรูปภพด้วยกันนั้น
เวทนา ๑ ในอรูปภพ ก็เป็นปัจจัยแห่งกองตัณหา ๑ อรูปภพด้วย
ဓာ
ตัณหานั้น ๆ ในภพนั้น ๆ เป็นปัจจัยแห่งอุปาทานนั้นๆ ธรรม
ที่เหลือมีอุปาทานเป็นต้น เป็นปัจจัยแห่งธรรมทั้งหลายมีภพเป็นอาทิ
ถามว่า ข้อนี้เป็นอย่างไร แก้ว่า " บุคคลลางคนในโลกนี้ ปรารถนา
( ด้วยอำนาจกามตัณหา )ว่า เราจักบริโภคกาม แล้วประพฤติทุจริต
ด้วยกาย ประพฤติทุจริตด้วยวาจา ประพฤติทุจริตด้วยใจ เพราะ
กามุปาทานเป็นปัจจัย ครั้นเพียบไปด้วยทุจริต เขา (ตายไป) ก็