วิสุทธิมรรค: การตั้งค่ากสิณ วิสุทธิมรรคแปล ภาค 1 ตอน 2 หน้า 97
หน้าที่ 97 / 324

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการตั้งค่าของกสิณในวิสุทธิมรรคที่ต้องมีการจัดตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อนั่งอย่างถูกต้อง และหลีกเลี่ยงการใช้เกรียงไม้ที่ทำให้เกิดสีที่แตกต่าง ซึ่งอาจมีผลต่อการมองเห็นของกสิณ การนั่งต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่สูงหรือต่ำเกินไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดคอหรือเข่าในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงรายละเอียดของการใช้เกรียงหินแทนเกรียงไม้และความถูกต้องของข้อความในมหาฎีกาที่อ้างถึงในบทพระสูตร ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นฐานของปาฐะในวิสุทธิมรรคนั้น.

หัวข้อประเด็น

-การจัดท่านั่งที่ถูกต้อง
-การใช้วัสดุในการตั้งค่ากสิณ
-ผลกระทบจากการนั่งในระดับที่ไม่เหมาะสม
-การเปรียบเทียบเกรียงไม้และเกรียงหิน
-การวิเคราะห์ข้อผิดพลาดในมหาฎีกา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ม.4 ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 95 เป็นต้น ท่านกล่าวไว้เพื่อตัดตอน (ขนาด) ปฐวีนิมิตนั้น เพราะ เหตุนั้น พระโยคาวจรแต่งวงกสิณให้ได้กำหนดขนาด ดังกล่าวนั้นแล้ว อย่าใช้เกรียงไม้เพราะมันทำให้เกิดสีที่แตกต่างกัน (คือสีที่เป็นโทษ ) พึงใช้เกรียงหินปาด (ดิน) ทำให้เรียบเช่นหน้ากลองแล้วกวาดสถานที่ นั้นเสีย ( ให้เตียน) ไปอายน้ำแล้วจึงมานั่งที่ตั้งอันตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว มีเท้าสูงประมาณคืบ 4 นิ้ว ซึ่งจัดไว้ตรงจุดที่มีระยะ ๒ ศอกคืบแต่วง กสิณ เพราะเมื่อนั่งไกลกว่านั้น กสิณจะไม่ชัด ใกล้กว่านั้น กสิณโทษจะปรากฏ” อนึ่ง ผู้นั่งสูงไป จะต้องโน้มคอลงดู ( นานเข้า คอจะปวด) นั่งต่ำไป ( จะต้องคุกเข่าขึ้นดู นานเข้า ) เข่าจะปวด เพราะฉะนั้น พระโยคาวจรจึงนั่งตามนัยที่กล่าวนั้นแล้ว พิจารณา ๑. ปาฐะในวิสุทธิมรรค พิมพ์ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๔๘๒ ที่ใช้เป็นต้นฉบับแล ตรงนี้ เป็น รุกฺขปญฺณิกาย (วิสภาควณฺณ์ สมุฎฐเปติ..) แต่ในมหาฎีกา (พิมพ์ครั้งแรก ๒๔๖๘ หน้า ๒๐๕) เบน รุกขปณฺณิกา (ปฐมาวิภัติ) เห็นว่าปาฐะในมหาฎีกาถูก เพราะสมุฎฐาเปติ ต้องเป็นกิริยาของ รุกฺขปญฺณิกา ๆ เป็นเหตุกัตตา จึงแปลเอาความได้ อนึ่ง มหาฎีกาท่านว่า เกรียงไม้ที่ทำให้เกิดสีเป็นสีวิภาคแก่ดินสีอรุณนั้น เป็นแต่ ไม้ลางชนิด (ที่มียางมาก) เช่นไม้ที่ท่านเรียกว่า กุจันทนะ (แปลว่าไม้จันทน์อย่างเลว กระมัง) ส่วนเกรียงทำด้วยไม้ปกติก็ใช้ได้เหมือนดังเกรียงหิน (คือไม่ทำให้ดินเกิดสี) ๒. กสิณโทษในที่นี้ ไม่ใช่อย่างเดียวกับที่กล่าวมาแล้ว มหาฎีกาท่านว่ารอยอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งนั่งห่างพอสมควรย่อมมองไม่เห็น แต่ถ้านั่งใกล้เพ่งดูเขาจะเห็น เช่นรอย ฝ่ามือ (ซึ่งอาจหลงตาเวลาแต่งเติมอยู่) ๓. ชนุนกานิ รุชฺฌนฺติ (รุชฺชนฺติ ?) เมื่อนั่งสูงกว่าวงกสิณ ท่านบอกว่าจะต้องโน้มคอ ลงดู ครั้นนั่งต่ำกว่า แทนที่ท่านจะบอกว่าต้องแหวนคอดู กลับบอกว่าเข่าจะปวด ถ้า เช่นนั้นคงจะไม่ใช่แหวน เพราะถ้าแหวนก็ต้องปวดคอ เมื่อปวดเข่าจะต้องเป็นคุกเข่า ขึ้นดู คุกเข่าอยู่นานเข้ามันก็ต้องปวดเข่าอยู่เอง ก็การนั่งเพ่งกสิณนั้น ท่านก็ให้นั่งตาม แบบ คือนั่งขัดสมาธิตั้งกายตรง เมื่อต้องมานั่งหย่งโย่หยกเช่นนั้น ก็เป็นนั่งผิดแบบ ไม่น่าจะให้มีขึ้น
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More