ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 145
ซึ่งจิตนั้นพร้อมทั้งสัมปยุตธรรมที่เหลือ โดยเสมอโดยชอบ ใน
เอกัตตารมณ์ เพราะเหตุนั้น ความที่ปฐมฌานประกอบองค์ ๕
บัณฑิตพึงทราบโดยเป็นความเกิดขึ้นแห่งองค์ ๕ นี้ คือ วิตก วิจาร
ปีติ สุข จิตเตกัคคตา ด้วยเมื่อองค์ ๕ นี้เกิดขึ้นแล้ว ฌานจึงได้ชื่อว่า
เกิดขึ้นแล้ว ด้วยเหตุนั้น องค์ ๕ นั้นท่านจึงเรียกว่า " องค์ประกอบ "
แห่งปฐมฌานนั้น เพราะฉะนั้นไม่ควรถือว่ายังมีฌานอื่นที่ประกอบ
ด้วยองค์ ๕ นั้นอยู่อีก เหมือนเสนา ท่านกล่าวว่าประกอบด้วยองค์ ๔
ดนตรี กล่าวว่าประกอบด้วยองค์ ๕ มรรค กล่าวว่าประกอบด้วยองค์ ๘
ก็ด้วยบังคับแห่งองค์เท่านั้นโดยแท้ ฉันใด แม้ปฐมฌานนี้ก็พึงทราบว่า
ท่านกล่าวว่ามีองค์ ๕ หรือว่าประกอบด้วยองค์ ๕ ก็ตาม ก็ด้วยบังคับ
แห่งองค์เท่านั้นเหมือนกัน ฉะนั้น องค์ ๕ นี่ย่อมมีแม้ในขณะแห่ง
อุปจารโดยแท้ แต่ว่าในอุปจาร องค์ ๕ นั้นมีกำลังยิ่งกว่าปกติ ( กามา
วจร ) จิต ส่วนในฌานนี้ องค์เหล่านั้นได้ลักษณะรูปาวจร ย่อม
มีกำลังยิ่งกว่าอุปจาร (จิต) เสียอีก แท้จริง ในองค์เหล่านั้น วิตก
ปักจิตลงไปในอารมณ์ด้วยอาการอันชัดเจนยิ่งเกิดขึ้น วิจารก็ตามพื้น
อารมณ์อย่างเต็มที่เกิดขึ้น ปีติและสุขก็แผ่ไปทั่วสรรพางค์กายเกิดขึ้น
เพราะเหตุนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้ว่า " องค์ อวัยวะ สักน้อย
หนึ่งแห่งสรรพางค์กายของเธอผู้ได้ปฐมฌานนั้น อันปีติและสุขที่เกิดแต่
วิเวกไม่สัมผัสแล้วหามีไม่" ดังนี้ แม้จิตเตกัคคตาก็สัมผัสในอารมณ์
* มหาฎีกาว่า โดยเสมอ คือ โดยความเสมอกันแห่งอินทรีย์ ชอบโดยไม่มีความหย่อน และ
ความฟุ้ง เพราะไกลจากปฏิปักขธรรม