ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 239
อสุภเป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่งบ้าง เพราะเหตุนั้น พระโยคาวจรอาจหา
อสุภชนิดใดๆ ได้ ก็ต้องถือเอานิมิตในอสุภชนิดนั้นๆ โดยมนสิการ
ว่า อุทธุมาตก์ ปฏิกูล วินีลก ปฏิกูล ดังนี้เป็นต้นนั่นเอง ประเภท
แห่งอสุภ พึงทราบว่าท่านกล่าวไว้เป็น ๑๐ ชนิด ตามความถึงสภาพ
(เป็นอยู่) แห่งซากศพฉะนี้แล
ส่วนว่าโดยความต่างกันในอสุภเหล่านี้ จึงทราบว่าท่านกล่าว
ประเภทแห่งอสุภไว้ถึง ๑๐ ชนิด ตามความต่างกันแห่งคนราคจริตอีก
อย่าง ๑ ดังนี้คือ
[๑] อุทธุมาตกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดใน
ทรวดทรง เพราะส่อความเสียทรวดทรงแห่งร่างกาย
[๒] วินีลกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดในสีกาย
เพราะส่อความเสียนวลแห่งผิว
[๓] วิปุพพกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้กำหนัดในกลิ่นกาย
ที่แต่งขึ้นด้วยอำนาจเครื่องอบกลิ่น มีดอกไม้และเครื่องหอมเป็นต้น
เพราะส่อความที่สิ่งที่เนื่องด้วยกายและผิวพรรณมีกลิ่นเหม็น
[๔] วิจฉัททกอสุภ เป็นสัปปายะแห่งบุคคลผู้มักกำหนัดใน
ความเป็นชิ้นทึบในสรีระ เพราะเผยความเป็นโพรงข้างใน
* มหาฎีกาตั้งปัญหาขึ้นว่า ผิว่าประเภทแห่งอสุภนี้ ท่านกล่าวไว้ตามความถึงสภาพแห่ง
ซากศพไซร้ เหตุไฉนในที่อื่นเช่นมหาสติปัฏฐานสูตรจึงกล่าวไว้แต่ ๕ ประเภทเล่า ? แล้ว
ท่านก็แก้ว่า ประเภท อสุภในมหาสติปัฏฐานสูตรเป็นต้นนั้น ท่านกล่าวตามความถึงสภาพโดย
มันเป็นของมันเอง (ตามลำดับ) ส่วนในที่นี้ท่านกล่าวอสุภที่ถูกสัตว์และคนทำร้าย
แถมเข้ามาด้วย และว่าในมหาสติปัฏฐานสูตรนั้นท่านกล่าวทางวิปัสสนา ในที่นี้กล่าวทางสมถะ