วิธีการปฏิบัติในวาโยกสิณ วิสุทธิมรรคแปล ภาค 1 ตอน 2 หน้า 198
หน้าที่ 198 / 324

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้พูดถึงการทำสมาธิผ่านวาโยกสิณ ซึ่งเกี่ยวกับการตระหนักถึงลมที่พัดผ่านร่างกาย โดยมีการกำหนดสภาพที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดนิมิตที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการเข้าถึงนีลกสิณ ด้วยการมองเห็นสีเขียวซึ่งนำไปสู่นิมิตต่าง ๆ การปฏิบัตินี้มีความสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเจริญวิชชาในทางธรรม ตามคำสอนของพระโยคาวจร.

หัวข้อประเด็น

-การทำสมาธิ
-วาโยกสิณ
-นีลกสิณ
-นิมิตทางจิต
-พระโยคาวจร

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 196 พระโยคาวจร (ผู้เจริญวาโยกสิณ ) เห็นต้นอ้อยก็ดี กอไผ่ก็ดี ต้นไม้ก็ดี ที่มีใบหนาตั้งอยู่ (สูง) เพียงศีรษะ” หรือผมของคนที่มีผมหนายาว ประมาณ ๔ องคุลี ก็ดี ที่ลมพัดอยู่ จึงตั้งสติ (ระลึก ) ว่า " ลมนี่พัด ทนัน " ก็หรือว่า ลมเข้าทางช่องหน้าต่างบ้าง ช่องฝาบ้าง มาต้อง ร่างกายของเธออันใด พึงตั้งสติในลมอันนั้น ภาวนาว่า วาโต วาโต โดยที่เป็นนามเด่นในบรรดานามของลมทั้งหลาย เช่น วาตะ มาลุตะ อนิละ อุคคหนิมิตในวาโยกสิณนี้ปรากฏยังเป็นนิมิตไหว เช่นกับกลุ่มไอ (ร้อน ) แห่งข้าวปายาสที่เพิ่งปลงลงจากเตา (ส่วน ) ปฏิภาคนิมิตเป็น ดวงนิ่งแน่ว คำที่เหลือพึงทราบตามนัยที่กล่าวแล้วนั้นเทอญ วาโยกสิณ จบ (นีลกสิณ] ส่วน ( กสิณ ) ถัดนั้นไป ( บัณฑิตพึงทราบดังนี้ ) โดยคำ ( ในอรรถ กถาทั้งหลาย) ว่า " พระโยคาวจรผู้จะขึ้นเอานีลกสิณ ย่อมถือเอานิมิต ในสีเขียว ( คราม ) เป็นดอกไม้บ้าง เป็นผ้าบ้าง เป็นธาตุสีบ้าง " ดังนี้ (ว่า) สำหรับผู้มีบุญมีอธิการ ได้สร้างไว้ก่อน เพียงได้เห็นกอดอกไม้ อันมีสีอย่างนั้น หรือพรมดอกไม้ อันมีสีอย่างนั้นในที่บูชาหรือผ้าเขียว และแก้วเขียว อย่างใดอย่างหนึ่ง นิมิตก็เกิดขึ้นได้ พระโยคาวจรนอกนี้ กามลม ๑. จะได้เพ่งดูตรงๆ ตามสบาย ไม่ต้องแหงน ไม่ต้องก้ม ๒. ผมสั้นไป ต้องลมก็ไม่ไหว ถ้ายาวไปก็ห้อยเสีย ถ้าบางไปก็ตา ไม่ปรากฏอาการต้องลม เพราะฉะนั้นท่านจึงกำหนดเอา ๔ องคุลี ไม่สั้น ไม่ยาว และ หนาด้วย อาการต้องลมจะได้ปรากฏ คือไหวไปมาได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More