การเจริญวิปัสสนาและกรรมฐานในพระพุทธศาสนา วิสุทธิมรรคแปล ภาค 1 ตอน 2 หน้า 36
หน้าที่ 36 / 324

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับความสำคัญของการเจริญวิปัสสนาและการถือกรรมฐานในพระพุทธศาสนา โดยอ้างถึงพระขีณาสพซึ่งประกาศตน และพระอัสสคุตตเถระที่มีบทบาทในการให้กรรมฐานแก่ภิกษุ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการพิจารณาเลือกศึกษาในสำนักภิกษุที่มีความรู้ซึ่งจะช่วยรักษาประเพณีและแบบแผนตามพระไตรปิฎกอย่างเคร่งครัด โดยเน้นความสำคัญในการรักษาความถูกต้องทางธรรมและความชำนาญในพระสูตรและอรรถกถา.

หัวข้อประเด็น

-การเจริญวิปัสสนา
-กรรมฐานในพระพุทธศาสนา
-พระขีณาสพ
-บทบาทของอาจารย์ในพระไตรปิฎก
-ความสำคัญของประเพณีและผู้ทรงความรู้

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 35 กรรมฐานบท ( เดียวกับที่ตนใคร่จะถือ) นั้นแล้ว เจริญวิปัสสนา อันมีฌานนั้นเป็นปทัฏฐาน ( จน) ได้บรรลุอาสวักขัย (นั้น) เถิด ถามว่า ก็พระขีณาสพ ( ท่าน) ประกาศตนว่า อาตมาเป็น พระขีณาสพหรือ ? ( ตอบว่า จะต้องพูดอะไรกันเล่าด้วยว่า พระขีณาสพ (องค์หนึ่ง) รู้ความที่ (ภิกษุรูปหนึ่ง) เป็น (การกบุคคล) ผู้ทำจริงแล้ว ก็ประกาศ (ตนออกมา) พระอัสสคุตตเถระ (นั่นอย่างไร ) รู้ว่ากรรมฐานอัน ภิกษุนี้เริ่มแล้ว ภิกษุนี้เป็นผู้ทำจริงดังนี้แล้ว (เหาะขึ้นไป ) ลาดธัมม ขัณฑ์ในอากาศ นั่งโดยบัลลังก์ ( ขัดสมาธิ ) ณ จัมมขัณฑ์นั้นบอกกรรมฐาน ให้มิใช่หรือ ? เพราะฉะนั้น ถ้าพระโยคาวจร ได้พระขีณาสพ ( เป็นผู้ให้กรรมฐาน ) ไซร้ การได้อย่างนี้ นั่นเป็นการดี ถ้าไม่ได้ไซร้ จึงถือเอา ( กรรมฐาน ) ในสำนัก พระอนาคามี พระสกทาคามี พระโสดาบัน ปุถุชนผู้ได้ฌาน ผู้ทรงไตรปิฎก ผู้ทรงทวีปิฎก ผู้ทรงเอกปิฎกหลั่นกันลงมา แม้นว่า ผู้ทรงเอกปิฎกไม่มี ภิกษุใดชำนาญ ( พระสูตร ) แม้นิกาย ๑ พร้อม ทั้งอรรถกถา และตัวเธอเองเป็นลัชชีด้วย ก็พึงถือเอาในสำนักภิกษุนั้น เถิด เพราะว่า ภิกษุ ( ผู้เป็นพหูสูตและเป็นลัชชี ) เช่นนี้ ย่อมเป็น ผู้ทรงไว้ซึ่งแบบแผน ตามรักษาวงศ์ รักษาประเพณี เป็นอาจารย์ ผู้ถือตามพระไตรปิฎก ( เป็นสำคัญ ) ไม่ถือแต่อัตตโนมัติ เพราะเหตุ นั้นแหละ พระเถระในปางก่อนทั้งหลายจึงได้กล่าว ( คติพยากรณ์) ไว้เป็น ๓ คาบว่า ลชุชี รกฺขิสสติ ลชชี รกฺขิสสติ ลชชี รกฺขิสสติ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More