ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 116
จะเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์ เป็นกาลที่จะเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์
นั่นเพราะเหตุอะไร ภิกษุทั้งหลาย (เพราะ) จิตฟุ้งซ่านอยู่ อันจิต
ฟุ้งซ่านนั้น พระโยคาวจรจึงทำให้สงบได้โดยง่ายด้วยธรรมเหล่านั้น
เปรียบเหมือนบุรุษใคร่จะดับไฟกองใหญ่ ต่างว่าเขาใส่หญ้าสดๆ ลง
ไป ใส่มูลโคสดๆ ลงไป ใส่ปืนสดๆ ลงไป ให้ลมเจือด้วยน้ำเข้าไป
และเอาฝุ่นโปรยลงไปที่กองไฟนั้นภิกษุทั้งหลาย บุรุษนั้นจะอาจดับ
ไฟกองใหญ่ (นั้น) ได้หรือไม่ " ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า " ได้
พระพุทธเจ้าข้า " ดังนี้"
[อาหารแห่งปัสสัทธิสัมโพชฌงค์]
แม้ในอธิการนี้ ก็พึงทราบการเจริญสัมโพชฌงค์ ๓ มี
ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์เป็นอาทิ โดยเนื่องด้วยธรรมอันเป็นอาหารของ
โพชฌงค์นั้นๆ จริงอยู่ ข้อนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ได้ตรัสไว้ว่า " มีอยู่ภิกษุ
ทั้งหลาย กายปัสสัทธิ ( ความสงบระงับแห่งกาย) จิตตปัสสัทธิ ( ความ
สงบระงับแห่งจิต ) ความทำโยนิโสมนสิการ ให้มากในปัสสัทธินั้น นี้เป็น
อาหารเพื่อความเกิดขึ้นแห่งปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิดบ้าง เพื่อ
ภิยโยภาพไพบูลย์เจริญเต็มที่แห่งปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ที่เกิดแล้วบ้าง "
ดังนี้
[อาหารแห่งสมาธิสัมโพชฌงค์]
นัยเดียวกัน ตรัสว่า " มีอยู่ ภิกษุทั้งหลาย สมถนิมิต ( นิมิต
สงบ ) อัพยัคคนิมิต ( นิมิตไม่ซัดส่าย ) ความทำโยนิโสมนสิการให้
*
สํ มหาวาร ๑๙/๑๓๑