ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 271
คำขึ้นต้นว่า " น เม อาจริโย อตฺถิ - อาจารย์ของเราไม่มี " บัณฑิต
พึง (นำมากล่าว) ให้พิสดาร เทอญ
[แก้อรรถบท ปุริสทมฺมสารถิ]
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า ปุริสทมุมสารถ เพราะ
ทรงขับ อธิบายว่าทรงฝึก ทรงนำไป ซึ่งบุรุษที่พึงฝึกได้ทั้งหลาย
บุรุษทั้งหลายที่ยังมิได้ฝึก ( แต่ว่า ) ควรจะฝึกได้ เป็นดิรัจฉานบุรุษก็ดี
เป็นมนุษย์บุรุษก็ดี เป็นอมนุษย์บุรุษก็ดี ชื่อว่า ปุริสทมฺมา - บุรุษที่พึง
ฝึกได้ทั้งหลาย" ในบท ปุริสทมมาสารถี นั้น จริงอย่างนั้น แม้ดิรัจฉาน
บุรุษทั้งหลาย เช่นอย่าง อปลาลนาคราช จูโฬทรนาคราช มโหทรนาคราช
อัคคิสิขนาคราช ธุมสิขนาคราช อาลวาฬนาคราช ช้างธนปาลกะ
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงฝึกได้ คือทรงทำให้หมดพิษ ( หมดร้าย)
ให้ตั้งอยู่ในสรณะและในศีลได้ แม้มนุษย์บุรุษทั้งหลาย เช่น สัจจกะ
นิครนถบุตร อัมพัฏฐมาณพ โปกขรสาติพราหมณ์ โสณทัณฑ
พราหมณ์ กูฎทันตพราหมณ์ แม้อมนุษย์บุรุษทั้งหลาย เช่น
อาฬวกยักษ์ สูจิโลมยักษ์ ขร โลมยักษ์ และสักกเทวราช พระองค์
ก็ทรงฝึกได้ คือทรงนำไปได้ด้วยวินยุบาย (วิธีนำ ) หลากๆ อนึ่ง
ในความข้อนี้ พระสูตรนี้ ( ที่ตรัส) ว่า " ดูกรเกสี เราก็นำบุรุษที่พึงฝึกได้
๑. ม.ม. ๑๒/๓๒๕
๒. คำว่าบุรุษ ในที่นี้ ท่านมิได้หมายถึงเพศ แต่หมายถึงว่า ใครก็ตามที่จะรับการฝึกได้
๓. มหาฎีกาว่า อปลาละ อยู่ในหินพานต์ จูโฬทร มโหทร อยู่ในนาคทวีป อัคคิสขะ
ธุมสิขะ อยู่ในสีหฬทวีป ส่วนอาลวาฬะ ท่านไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน ช้างธนปาลกะ ก็
คือ ช้างนาฬาคิรีนั่นเอง