ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตทธิมุตฺตตา
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 115
ความน้อมใจไปในปีตินั้น
พระโยคาวจร เมื่อยังธรรมเหล่านั้นให้เกิดขึ้นด้วยอาการเหล่านี้
ดังกล่าวมา ชื่อว่าทำสัมโพชฌงค์ ๓ มีธัมมวิจยสัมโพชฌงค์เป็นต้น
ให้เจริญ พระโยคาวจรยกจิตในสมัยที่ควรยก อย่างนี้แล
(๕) ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม
ถามว่า " พระโยคาวจรข่มจิตในสมัยที่ควรข่มอย่างไร " วิสัชนา
ว่า ในกาลใดจิตของเธอฟุ้งซ่านเพราะเหตุมีความเป็นผู้ปรารภความ
เพียรเกินไปเป็นต้น ในกาลนั้นอย่าเจริญสัมโพชฌงค์ ๓ มีธรรมวิจัย
สัมโพชฌงค์เป็นอาทิ แล้วเจริญสัมโพชฌงค์ ๓ มีปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
เป็นต้น จริงอยู่ ข้อนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ได้ตรัสไว้ว่า " ดูกรภิกษุทั้ง
หลาย ต่างว่าบุรุษใคร่จะดับกองไฟใหญ่ (หาก) เขาใส่หญ้าแห้งๆ
ลงไป ใส่มูล โคแห้งๆ ลงไป ใส่ฟืนแห้งๆ ลงไป เป่าเข้าไป และ
ไม่เอาฝุ่นโปรยลงไปที่กองไฟนั้น ภิกษุทั้งหลาย บุรุษนั้นจะอาจดับไฟ
กองใหญ่ (นั้น) ได้หรือหนอ " ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า " ข้อนั้นหา
มิได้ พระพุทธเจ้าข้า " ตรัสต่อไปว่า " ฉันนั้นนั่นแล ภิกษุทั้งหลาย
ในสมัยใดจิตฟุ้งซ่านอยู่ ในสมัยนั้น (กาลนั้น ) มิใช่กาลที่จะเจริญ
ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ มิใช่กาลที่จะเจริญวิริยสัมโพชฌงค์ มิใช่
กาลที่จะเจริญปีติสัมโพชฌงค์ นั่นเพราะเหตุอะไร ภิกษุทั้งหลาย
(เพราะ) จิตฟุ้งซ่านอยู่ อันจิตฟุ้งซ่านนั้นยากที่จะทำให้สงบลงได้
ด้วยธรรมเหล่านั้น ภิกษุทั้งหลาย ก็แลในสมัยใดจิตฟุ้งซ่านอยู่ ใน
สมัยนั้น ( กาลนั้น ) เป็นกาลที่จะเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ เป็นกาลที่