ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 223
ถ้าแม้ว่ากำหนดดูโดยอาการอย่างนั้นแล้ว อุทธุมาตกภาวะ
ก็ยังไม่
ปรากฏไซร้ ร่าง ( ท่อนบน ) แค่ท้อง ย่อมจะขึ้นมากกว่า ( ท่อนล่าง )
พึงตั้งจิตบริกรรมว่า อุทธุมาตก์ อุทธุมาตก ที่ร่างท่อนนั้นก็ได้
[วินิจฉัยอุคคหนิมิตเป็นอาทิ
คำต่อไปนี้ เป็นคำวินิจฉัยในอรรถกถาปาฐะมีคำว่า " เธอย่อม
ทำนิมิตนั้นให้เป็นสิ่งที่ถือเอาได้อย่างดีแล้ว" ดังนี้เป็นอาทิ อัน
พระโยคีนั้นจึงถือเอานิมิตในซากนั้นให้ดี โดย (วิธี ) ถือเอานิมิตตาม
ที่กล่าวแล้ว พึงทำสติให้มั่นดีแล้วนึกหน่วงไป เธอผู้ทำ (ความนึก
หน่วง) อย่างนั้นอยู่แล้วๆ เล่าๆ พึงจดจำและกำหนดเอาไว้ให้แม่น
ด้วยเธอผู้ยืนก็ดี นั่งก็ดี ในที่ไม่ไกลนัก ไม่ใกล้นักแต่ซากศพ จึง
ลืมตาแลดูถือเอานิมิต ( ให้ได้ ) พึงบริกรรมว่า อุทธุมาตก์ ปฏิกูล
อุทธุมาตก์ ปฏิกูล์ ลืมตาแลดู หลับตานึกหน่วงไป ๑๐๐ หน ๑,๐๐๐ หน
เมื่อเธอทำอยู่อย่างนั้นเรื่อยไป อุคคหนิมิต ก็จะเป็นสิ่งที่เธอถือเอาได้
อย่างดี
ถามว่า อุคฺคหนิมิต จะเป็นสิ่งที่พระโยคาวจรถือเอาได้อย่างดีใน
กาลไร? ตอบว่า ในกาลใด เมื่อเธอลืมตาแลดูก็ดี หลับตานึกหน่วง
ก็ดี นิมิต (ปรากฏ ) เป็นอย่างเดียวกันมาสู่คลอง ( จักษุ) ในกาลนั้น
อุคคหนิมิต ชื่อว่าเป็นสิ่งที่เธอถือเอาได้อย่างดีแล้ว
พระโยคาวจรนั้น ครั้นทำนิมิตนั้นให้เป็นสิ่งที่ถือเอาอย่างดี จดจำ
ไว้อย่างดี กำหนดไว้อย่างดีดังนี้แล้ว ถ้าไม่อาจถึงที่สุดแห่งภาวนาใน
ที่นั้นเลยไซร้ เมื่อเช่นนั้น เธอแต่ผู้เดียว ไม่ (ต้อง) มีสหาย มนสิการ