ข้อความต้นฉบับในหน้า
*
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 204
[ความแตกต่างแห่งกสิณ
กสิณทั้งหมดนั่น มีความแตกต่าง (ดัง) นี้ คือ อุทธ์ (ขยายขึ้น
เบื้องบน ) อโธ ( ขยายลงเบื้องล่าง ) ติริย์ (ขยายไปโดยขวางรอบตัว )
อทวย์ ( ขยายไปไม่เป็น ๒ ) อปฺปมาณ (ขยายไปไม่มีประมาณ) จริงอยู่
ข้อนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า " บุคคลลางคนกำหนดกสิณไป
เบื้องบน ลางคนกำหนดกสิณไปเบื้องล่าง ลางคนกำหนดกสิณไป
โดยขวาง ไม่เป็น ๒ ไม่มีประมาณ " ดังนี้เป็นต้น
ในคำเหล่านั้น คำว่า อุทธ์ คือมุ่งสู่ท้องฟ้าเบื้องบน คำว่า อโธ
คือมุ่งสู่พื้นดินเบื้องล่าง คำว่า ติริย์ คือกำหนดไปรอบตัวดุจลาน
แท้จริง พระโยคาวจรลางท่าน ขยายกสิณไปเบื้องบนทางเดียว ลางท่าน
ขยายไปเบื้องล่าง ลางท่านขยายไปโดยรอบตัว หรือแผ่ไปอย่างนั้น
ตามเหตุการณ์นั้นๆ ดังผู้ใคร่จะเห็นรูปด้วยทิพจักษุ ก็แผ่แสงสว่างไป
ฉะนั้น เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัส ๓ บทว่า อุทฺธ์ อโธ
ติริย์ ส่วนคำว่า อทุวย์ นี่ ตรัสเพื่อ (แสดง ) ความที่กสิณอันหนึ่ง
ไม่กลายเป็นกสิณอันอื่นไป เปรียบเหมือนเมื่อคนลงน้ำไป ก็มีแต่น้ำ
ไปทุกทิศ ไม่มีสิ่งอื่นฉันใด ปฐวีกสิณก็ย่อมเป็นแต่ปฐวีกสิณเท่านั้น
ความระคนกับกสิณอื่นหามีแก่ปฐวีกสิณนั้นไม่ ฉันนั้น นัยดังนี้นี่ จึง
ทราบในกสิณทั้งปวงคำว่า อปฺปมาณ นี่ตรัสโดยที่การแผ่ไปแห่ง
มหาฎีกาว่า ถ้าใคร่จะเห็นรูปในเบื้องบนก็แผ่แสงสว่างไปเบื้องบน ถ้าใคร่
จะเห็นรูปในเบื้องล่าง ก็แผ่แสงสว่างไปเบื้องล่าง ถ้าใคร่จะเห็นรูปโดยรอบก็แผ่แสง
สว่างไปรอบๆ ตัว