ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 242
ช้างด้วยว่าสรีระของคนตายเป็นอสุภฉันใดแล แม้สรีระของคนเป็น
ก็เป็นอสุภฉันนั้นเหมือนกัน เป็นแต่ลักษณะอสุภในสรีระคนเป็นนั้น
ไม่ปรากฏ เพราะเครื่องแต่งกายอันเป็นอาคันตุกะปิดบังไว้ โดยปกติ
แล้ว อันสรีระนี้ มีกระดูก ๓๐๐ - ท่อนกว่าๆ เป็นโครง (กระดูกนั้น )
ชนติดกันด้วยข้อต่อ ๑๘๐ ข้อ ยึดกันอยู่ด้วยเอ็น ๕๐๐ เส้น ฉาบด้วยเนื้อ
๕๐๐ ชิ้น หุ้มด้วยหนังสดบางๆ ปิดด้วย (หนัง) ผิว ( คือหนังกำพร้า)
มีช่องทะลุปรุไป มีมันซึมออกทั้งข้างบนและข้างล่าง ดุจโถมันข้น
เป็นบ่อนของหมู่หนอน เป็นบ่อเกิดแห่งโรคทั้งหลาย เป็นแหล่งแห่ง
ทุกขธรรม (ธรรมฝ่ายทุกข์ ) ทั้งหลาย เป็นที่หลั่งออกเนืองๆ (แห่ง
ของไม่สะอาด ) ทางปากแผลทั้ง 6 ดุจผีเรื้อรังที่แตกแล้ว คือเป็นสรีระ
ที่มีมูลตาออกทางตาทั้งสองข้าง มูลหูออกทางช่องหู ( ทั้งสองข้าง)
น้ำมูกออกทางช่องจมูก ( ทั้งสองข้าง )อาหาร (สำรอก) น้ำดี เสมหะ
และเลือดออกทางปาก อุจจาระปัสสาวะออกทางทวารเบื้องล่าง
(แถม ) หยาดเหงื่ออันไม่สะอาด ออกทางขุมขน ๕๕,๐๐๐ ขุม ตัวแมลง
ทั้งหลายมีแมลงวันหัวเขียวเป็นต้นรุมตอมไป บุคคลไม่ปรนนิบัติสรีระ
ไรเล่า ด้วยสรีรกิจมีสีฟันและบ้วนปาก สระหัว อาบน้ำ นุ่งผ้า ห่มผ้า
เป็นต้น เป็นคน ( ปล่อยกาย ตามกำเนิด มีผมหยาบยุ่งเที่ยวไปตาม
หมู่บ้าน เป็นราชาก็ดี เป็นคนชั้นเลวมีรับจ้างเทขยะและคนจัณฑาล
เป็นต้นผู้ใดผู้หนึ่งก็ดี ก็หามีความแปลกกันไม่ เพราะความที่มีสรีระ
ปฏิกูลเสมอกัน ชื่อว่าความต่างกันในสรีระของราชาก็ตาม
จัณฑาลก็ตาม หามีไม่ เพราะความที่มีสรีระเป็นของปฏิกูลคือ ไม่สะอาด
มอง