ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 262
(นัยที่ ๓ ผู้เสด็จไปโดยชอบ
က
อนึ่ง พระองค์เสด็จไปแล้วโดยชอบ คือ ไม่กลับมาสู่กิเลส
ทั้งหลายที่ทรงละได้แล้วด้วยมรรคนั้นๆ อีก สมคำที่กล่าวไว้ (ใน
ปฏิสัมภิทามรรค ) ว่า กิเลสเหล่าใด ทรงละแล้วด้วยโสดาปัตติมรรค
พระองค์ไม่ทรงคืนมา ไม่ทรงหวนมา ไม่ทรงกลับมาสู่กิเลสเหล่านั้น
เหตุนั้น พระองค์จึงเป็น สุคโต ฯลฯ กิเลสเหล่าใดทรงละแล้วด้วย
อรหัตมรรคพระองค์ไม่ทรงคืนมา ไม่ทรงหวนมา ไม่ทรงกลับมาสู่
กิเลสเหล่านั้น เหตุนั้น พระองค์จึงเป็น สุคโต ดังนี้ อีกอย่างหนึ่ง
เสด็จไปโดยชอบ คือ ทรงทำแต่ประโยชน์เกื้อกูล และความสุข แก่
โลกทั้งปวง ด้วยพระสัมมาปฏิบัติ เพราะทรงบำเพ็ญพระสมดึงสบารมี
จำเดิมแต่ (กาลที่ตั้งพระปณิธาน ) แทบบาทมูลพระพุทธทีปังกร ตราบ
เท่าถึงกาลที่พระโพธิญาณแจ่มใส และทรงดำเนินไป ( เป็นมัชฌิมา )
ไม่เข้าใกล้อันตะ ( ๒ คู่ ) คือ สัสสตะ และอุจเฉทะ (คู่ ๑) กามสุขะ
อัตตกิลมถะ (คู่ ๑) เหตุนั้น จึงทรงพระนามว่า สุคโต เพราะความ
ที่เสด็จไปโดยชอบ ( ดังนี้ ) ประการ ๑
[นัยที่ ๔ ผู้ตรัสโดยชอบ]
อนึ่ง พระองค์ย่อมตรัสโดยชอบ คือทรงกล่าววาจาแต่ที่ควร ใน
ฐานะอันควร เหตุนั้นจึงทรงพระนามว่า สุคโต เพราะความที่ตรัส
โดยชอบประการ ๑ ( ความในอภัยราชกุมารสูตรต่อไป ) นี้ เป็นสูตร
สาธกในความข้อนั้น คือ