ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 266
คือ ตกตะกอน อยู่ในสันดาน) ทรงรู้จริต (ปกติของจิต ) ทรงรู้อธิมุติ
(ความโน้มเอียงแห่งจิต ) ของสัตว์ทั้งปวงหมด ทรงรู้สัตว์ทั้งหลายที่มี
กิเลสดุจธุลีในดวงตาน้อย มีกิเลสดุจธุลีในดวงตามาก ที่มีอินทรีย์กล้า
มีอินทรีย์อ่อน ที่มีอาการดี มีอาการทรามที่จะพึง (สอน) ให้รู้ง่าย
ที่จะพึง ( สอน ) ให้รู้ยาก ที่เป็นภัพพสัตว์ เป็นอภัพพสัตว์ เพราะ
เหตุนั้น แม้สัตวโลกพระองค์ทรงรู้โดยประการทั้งปวง อนึ่ง สัตว
โลกพระองค์ทรงรู้ฉันใด แม้โอกาสโลกก็ทรงรู้ฉันนั้น จริงอย่างนั้น
[ขนาดของจักรวาล]
จักรวาลอันหนึ่ง โดยยาวและโดยกว้าง ประมาณ ๑,๒๐๓,๔๕๐ โยชน์
(๑ โยชน์ = ๑๖ กิโลเมตร ) ส่วนโดยรอบ
ปริมณฑลทั้งสิ้น ( ของจักรวาลนั้น )ประมาณ
๓.๖๑๐,๓๕๐ โยชน์
ในจักรวาลนั้น
(ขนาดหนาของแผ่นดิน]
แผ่นดินนี้ กล่าวโดยความหนา มีประมาณ
ถึงเท่านี้ คือ ๒๔๐,๐๐๐ โยชน์
* มหาฎีกาอธิบายว่า ที่ว่ามีอาการดีนั้น คือมีปกติ (กาย วาจา ?) งาม มีอัทยาศัย (ใจ)
น้อมไปทางวิวัฏฏะ
ที่ว่าจะพึง (สอน) ให้รู้ง่าย นั้น คือมีศรัทธาและปัญญา ง่ายที่จะให้รู้ธรรมที่ถูกต้อง
ภัพพสัตว์ คือคนที่ปราศจากโทษอันกีดกั้นมิให้บรรลุมรรคผล ๓ อย่าง คือ กรรม
กิเลส วิบาก เรียกเป็นศัพท์ว่า กัมมาวรณ กิเลสาวรณ วิปากาวรณ
ฝ่ายกาฬปักษ์ พึงทราบโดยนัยตรงกันข้าม