ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 85
ก) ตากข้าวที่หน้าวิหาร ยังทำไม่ผาสุกอย่างอื่นอีกมาก แม้
ในวิหารใด มีโภคสมบัติของสงฆ์มาก พวกคนวัดกันฝูงโคของตระกูล
ทั้งหลาย ( มิให้เข้ามาหากินที่วัด) กั้นทางน้ำ (กักน้ำไว้ใช้ในที่ของ
วัด น้ำก็ไม่ไหลไปสู่นาของชาวบ้าน ต้นข้าวของชาวบ้านก็เหี่ยวแห้ง )
คนทั้งหลายพากันถือเอารวงข้าวที่เหี่ยวแห้งไปแสดงแก่สงฆ์ ร้องทุกข์
ว่า " พระคุณท่านทั้งหลาย ดูเอาเถิด การกระทำของพวกคนวัดของ
พระคุณท่าน " เพราะเหตุ ( ที่เกิดขึ้น ) นั้น ( เมื่อสงฆ์ไม่สามารถจะ
จัดการให้เป็นที่พอใจของพวกเขาได้ เขาก็จะร้องทุกข์ถึงเจ้าถึงนาย
ทีนี้ ) พระโยคีนั้นก็จำต้องไปสู่ทวารพระราชนิเวศน์ หรือประตูบ้าน
ท่านราชมหาอำมาตย์ ( ซึ่งเป็นที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อให้ถ้อยคำ
แก่เจ้าหน้าที่ ) แม้วิหารที่มีโภคสมบัติของสงฆ์มากนี้ ก็สงเคราะห์เข้า
ด้วยวิหารติดที่นาได้เหมือนกัน
[วิสภาคานํ ปุคฺคาลนํ อตฺถิตา]
ข้อว่า " ความเป็นวิหารมีบุคคลผู้เป็นวิสภาคกันอยู่" มีวินิจฉัย
ว่า ในวิหารใด ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นวิสภาค คือ เป็นข้าศึกกันและกัน
อยู่ (ร่วมกัน ) ภิกษุพวกใดทะเลาะกันอยู่ เมื่อพระ
เมื่อพระโยคีห้ามว่า
" ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ขอท่านทั้งหลายอย่าทำอย่างนั้นเลย " ภิกษุ
* ปมเข สุสุสยนฺติ ศัพท์ ปมุเข ถ้าแปลว่า "หน้ามุข" เป็นปัญหามาก หน้ามุขอะไร
จะกว้างพอตากข้าวได้ และถ้าละลาบละล้วงถึงใช้หน้ามุขเป็นที่ตากข้าว มิเป็นบังอาจเกิน
ไปหรือ ในที่นี้จึงแปลว่า "หน้าวิหาร" ด้วยคิดเห็นว่าหน้าวัดอาจมีลานพอตากข้าวได้