ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที 13
เดียวไซร้ สมาธินี้เรียกว่าฉันทสมาธิ ถ้าภิกษุทำวิริยะให้เป็นใหญ่
ได้สมาธิ ได้ความที่จิตมีอารมณ์เดียวไซร้ สมาธินี้เรียกว่า วิริยสมาธิ
ถ้าภิกษุทำจิตตะให้เป็นใหญ่ได้สมาธิ ได้ความที่จิตมีอารมณ์เดียวไซร้
สมาธินี้เรียกว่าจิตตสมาธิ ถ้าภิกษุทำวิมังสาให้เป็นใหญ่ได้สมาธิ
ได้ความที่จิตมีอารมณ์เดียวไซร้
สมาธินีเรียกว่า วิมังสาสมาธิ"
อย่างนี้แล สมาธิเป็น ๔ โดยจำแนกตามอิทธิบาทที่เป็นอธิบดี
(ปัญจกะ ( สมาธิหมวด ๕ )]
พึงทราบฌาน ๕ เพราะแบ่ง (ทุติยฌานในจตุกนัย) เป็น ๒
โดยวิธีอย่างนี้ คือ ทุติยฌานที่กล่าวในจตุกนัย (นั่นแลแบ่ง ) เป็น
ทุติยฌาน เพราะวิตกอย่างเดียวล่วงไป เป็นตติยฌาน เพราะทั้งวิตก
และวิจารล่วงไป สมาธิเป็นองค์แห่งฌาน ๕ นั้น จึงเป็นสมาธิ ๕
พึงทราบความที่สมาธิเป็น ๕ โดยเป็นองค์ปัญจกฌานอย่างนี้แล
[ความเศร้าหมองและความผ่องแผ้วแห่งสมาธิ
และ
ก็แลคำเฉลยในปัญหาข้อว่า " อะไรเป็นความเศร้าหมอง
อะไรเป็นความผ่องแผ้วแห่งสมาธินั้น " นี้ท่านกล่าวไว้แล้วในวิภังค์
จริงอยู่ ในวิภังค์นั้นกล่าวไว้ว่า หานภาคิยธรรม (ธรรมอันเป็นไป
ทางฝ่ายเสื่อม) ชื่อว่า ความเศร้าหมอง วิเสสภาคิยธรรม (ธรรมอันเป็นไป
ทางฝ่ายวิเศษขึ้น ) ชื่อว่าความผ่องแผ้ว ดังนี้ ในธรรม ๒
1)
๑. อภ. ๒๕/๒๕๖
๒. อภิ.วี ๓๕/๔๖๕