ข้อความต้นฉบับในหน้า
ม.ส
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 90
ลม แดด และสัตว์เลื้อยคลาน ก็แลเมื่อภิกษุพำนักอยู่ในเสนาสนะนั้น
จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารทั้งหลายย่อม
เกิดขึ้นโดยไม่ฝืดเคืองเลย อนึ่ง ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นเถระ เป็นพหูสูต
ทรงธรรม
ทรงวินัย ทรงมาติกา
ย่อมอยู่ในเสนาสนะ
นั้น ภิกษุเข้าไปหาพระเถระเหล่านั้นตามกาลอันควร ได้สอบถาม
(ข้อธรรม ข้ออรรถ) ว่า " ท่านเจ้าข้า บทนี้เป็นอย่างไร " ท่าน
เหล่านั้นย่อมจะเปิดข้อที่ยังไม่ได้เปิด ทำให้ตื้นข้อที่ยังมิได้ทำให้ตื้น
และบรรเทาความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันน่าจะสงสัยได้หลายๆ อย่าง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เสนาสนะประกอบด้วยองค์ ๕ เป็นอย่างนี้แล "
นี้เป็นความพิสดารในข้อว่า "ละวิหารอันไม่เหมาะสมแก่การบำเพ็ญ
สมาธิเสียแล้วพำนักอยู่ในวิหารที่เหมาะสม "
(ตัดปลิโพธเล็กน้อย]
พึงทราบวินิจฉัยในข้อว่า " ทำการตัดปลิโพธเล็กน้อยเสีย "
(ต่อไป ) พระโยคาวจรผู้ได้อยู่ในวิหารอันเหมาะสมอย่างนี้ ปลิโพธ
ทั้งหลายแม้ที่เล็กน้อยซึ่งเธอมีอยู่
อยู่ ก็พึ่งตัดเสียด้วย ปลิโพธเล็กน้อย
* องค์ ๕ นับอย่างไร มหาฎีกาท่านให้นับอย่างนี้ ไม่ไกลนักไม่ใกล้นัก ไปมาสะดวกเป็น
องค์ ๑ กลางวัน ไม่พลุกพล่าน กลางคืนเงียบ เป็นองค์ ๑ ปราศจากสัมผัสแห่งเหลือยุง
เป็นองค์ ๑ ปัจจัยสี่ไม่ฝืดเคือง เป็นองค์ ๑ มีภิกษุพหุสูตอยู่ด้วย เป็นองค์ ๑
อนึ่ง ศัพท์ โข ปน โหติ ท้ายบท... สิริปสมผสส์ เกินแน่ เพราะอยู่ในตำแหน่ง
ที่ไม่ตรงควรอยู่ ไม่ช่วยทำความให้ดีขึ้น กลับทำให้เสีย และสอบดูในฉบับบาลีทสกังคุตตร
(หน้า ๑๗) แล้ว ไม่มีศัพท์ทั้ง ๓ ต่อท้ายบท สิริปสมผสส์ จึงควรขีดศัพท์ทั้ง ๓
ออกได้