วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ วิสุทธิมรรคแปล ภาค 1 ตอน 2 หน้า 135
หน้าที่ 135 / 324

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการวิเคราะห์นิวรณ์ทั้งหลายในวิสุทธิมรรค ซึ่งเป็นข้าศึกต่อองค์ฌาน โดยพระมหากัจจานเถระได้อธิบายถึงความที่สมาธิ ปีติ วิตก สุข และวิจาร เป็นปฏิปักษ์ต่ออารมณ์ต่างๆ ของนิวรณ์ ทั้งนี้ การข่มไว้ของนิวรณ์ที่กล่าวถึงในบทเพลงคือการรักษาความสงัด เพื่อจะได้พัฒนาสมาธิและเข้าสู่ฌานได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความสำคัญของการจำแนกธรรมเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง

หัวข้อประเด็น

-ความสัมพันธ์ระหว่างนิวรณ์และองค์ฌาน
-การข่มนิวรณ์
-บทบาทของสมาธิในวิสุทธิมรรค
-การจำแนกธรรมและการทำความเข้าใจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 133 อนึ่ง แม้เมื่อธรรมทั้งหลายอื่นเป็นอกุศลมีอยู่ (แต่) นิวรณ์ทั้งหลาย เท่านั้น ท่านกล่าวไว้ในวิภังค์โดยนัยว่า " ตตฺถ กาเม อกุสลา ธมฺมา กามจฺฉนฺโท " ดังนี้เป็นต้น โดยแสดงความที่มันเป็นปฏิปักษ์ต่อองค์ ฌาน อันจะกล่าวข้างหน้า ซึ่งเป็นข้าศึก ( ของมัน ) มีคำอธิบายว่า " เพราะนิวรณ์ทั้งหลายเป็นข้าศึกต่อองค์ฌาน องค์ฌานเล่าก็เป็น ข้าศึก คือเป็นเครื่องกำจัดนิวรณ์เหล่านั้น " จริงอย่างนั้น ข้อนี้พระ มหากัจจานเถระกล่าวไว้ในคัมภีร์เปฎกะว่า " สมาธิเป็นปฏิปักษ์ต่อ กามฉันท์ ปีติเป็นปฏิปักษ์ต่อพยาบาท วิตกเป็นปฏิปักษ์ต่อถีนมิทธะ สุขเป็นปฏิปักษ์ต่ออุทธัจจกุกุจจะ วิจารเป็นปฏิปักษ์ต่อวิจิกิจฉา" ดังนี้ โดยนัยที่กล่าวมาฉะนี้ ในปาฐะ ๒ บทนั้น ( วิกขัมภนวิเวก ) ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่ง ซึ่งกามฉันท์ เป็นอันกล่าวด้วยบทแรกนี้ คือ " วิวิจฺเจว กาเมหิ " ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งนิวรณ์ทั้ง ๕ เป็น อันกล่าวด้วยบทที่ ๒ นี้ คือ " วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ " * แต่ (เมื่อว่า ) โดยการถือเอาข้อที่ยังมิได้ถือเอา” บัณฑิต พึงทราบว่า " ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งกามฉันท์เป็นอันกล่าวด้วยบท แรก ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งนิวรณ์ที่เหลือเป็นอันกล่าวด้วยบทที่ ๒ อุปริ ฌานครน ในมหาฎีกาเรียงติดกันเป็นบทสมาส และตั้งวิเคราะห์ไว้ด้วยว่า อุปริ วุจจมานาน ฌานคามิ อุปริฌานคานิ ๑. อคฺคหิตคฺคหเณ หมายความว่า เท่าที่จำแนกธรรมอันควรเป็นความหมายแห่งปาฐะ ทั้ง ๒ ได้มาแล้วนั้น ยังไม่สิ้นกระแสความที่ควรจะจำแนก ยังมีข้อที่ควรถือเอานียะ มากล่าวได้อีก ดังต่อไปนั้น (?)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More