การเข้า ฌาน และ อธิฏฐานวสี ในพระพุทธศาสนา วิสุทธิมรรคแปล ภาค 1 ตอน 2 หน้า 163
หน้าที่ 163 / 324

สรุปเนื้อหา

บทความนี้นำเสนอเกี่ยวกับการเข้า ฌาน และการควบคุมความสามารถของอธิฏฐานวสีและวุฏฐานวสี ในบริบทของพระพุทธศาสนา โดยยกตัวอย่างจากเรื่องพระพุทธรักขิตเถระและการช่วยเหลือพระมหาโรหณคุตตเถระซึ่งแสดงถึงความสามารถในการเข้าถึงฌานและการแสดงฤทธิ์ อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างอาวัชชนวสีของพระศาสดาและผู้อื่น ความสามารถในการทำปาฏิหาริย์ และการคงอยู่ของฤทธิ์ในระยะยาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งในแนวทางการฝึกฝนของพระภิกษุ

หัวข้อประเด็น

-การเข้า ฌาน
-อธิฏฐานวสี
-วุฏฐานวสี
-พระพุทธรักขิตเถระ
-ฤทธิ์ในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 161 ขึ้นชื่อว่าอาวัชชนวสีรวดเร็วยิ่งกว่านี้หามีไม่ ส่วนความเป็นผู้สามารถ ในการเข้า ( ฌาน ) ได้เร็วดุจการเข้าเมื่อครั้งทรมานนันโทปนันท นาคราช แห่งท่านพระมหาโมคคัลลานะ ชื่อว่าสมาปัชชนวสี ความ เป็นผู้สามารถที่จะยั้ง ( ฌาน ) ไว้ได้ขณะหนึ่ง ชั่วลัดนิ้วมือทีเดียวก็ดี ชั่วลัดนิ้วมือ (อย่างมาก )ถึง ๑๐ ทีก็ดี ชื่อว่า อธิฏฐานวสี ความ เป็นผู้สามารถที่จะออก ( จากฌาน ) ได้เร็วเช่นเดียวกันนั้นชื่อว่า วุฏ ฐานวสี ( ที่จะแสดง (ตัวอย่าง) อธิฏฐานวสีและวุฏฐานวสีทั้ง ๒ อย่าง ( นั้น เล่าเรื่องพระพุทธรักขิตเถระ ( มาสาธก ก็ควร มีเรื่องเล่าว่า ท่านองค์นั้น แต่อุปสมบทได้ ๘ พรรษา (วันนั้น ) นั่งอยู่ในท่ามกลางภิกษุผู้มีฤทธิ์ประมาณ ๓๐,๐๐๐ รูป ผู้มา อุปฐากไข้พระมหาโรหณคุตตเถระที่เถริมพัตถละ (วิหาร ) เห็นพญา ครุฑถาโถมลงมาแต่อากาศหมายจักจับพญานาค ( จำแลง ) ผู้เป็น อุปฐาก ซึ่งกำลังประเคนข้าวยาคูแด่พระเถระอยู่ ก็นิรมิตภูเขาขึ้นแล้ว ใช้แขนโอบเอาพญานาคเข้าไปใน (ช่อง) เขานั้นเสียทันใด พญา ครุฑปะทะภูเขาเข้าก็หนีไป พระมหาเถระจึงกล่าวขึ้นว่า " อาวุโส ทั้งหลาย ถ้าพุทธรักขิตจักไม่มีอยู่แล้วไซร้ พวกเราทุกคนก็จักเป็นผู้ ถูกตำหนิ " ดังนี้ ส่วนปัจจเวกขณวสี เป็นอันกล่าวแล้วด้วยอาวัชชนวสีนั่นเอง มหาฎีกาว่า อาวัชชนวสี ของท่านผู้อื่นนั้นถึงแม้จะรวดเร็ว แต่ก็ชั่วกาลอันสั้น ไม่ เหมือนของพระศาสดาดังในคราวยมกปาฏิหาริย์ ซึ่งทรงทำได้ต่อกันไปนาน เป็น อสาธารณปาฏิหาริย์ ไม่มีผู้ใดทำได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More