ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 161
ขึ้นชื่อว่าอาวัชชนวสีรวดเร็วยิ่งกว่านี้หามีไม่ ส่วนความเป็นผู้สามารถ
ในการเข้า ( ฌาน ) ได้เร็วดุจการเข้าเมื่อครั้งทรมานนันโทปนันท
นาคราช แห่งท่านพระมหาโมคคัลลานะ ชื่อว่าสมาปัชชนวสี ความ
เป็นผู้สามารถที่จะยั้ง ( ฌาน ) ไว้ได้ขณะหนึ่ง ชั่วลัดนิ้วมือทีเดียวก็ดี
ชั่วลัดนิ้วมือ (อย่างมาก )ถึง ๑๐ ทีก็ดี ชื่อว่า อธิฏฐานวสี ความ
เป็นผู้สามารถที่จะออก ( จากฌาน ) ได้เร็วเช่นเดียวกันนั้นชื่อว่า วุฏ
ฐานวสี
(
ที่จะแสดง (ตัวอย่าง) อธิฏฐานวสีและวุฏฐานวสีทั้ง ๒ อย่าง
(
นั้น เล่าเรื่องพระพุทธรักขิตเถระ ( มาสาธก ก็ควร
มีเรื่องเล่าว่า ท่านองค์นั้น แต่อุปสมบทได้ ๘ พรรษา
(วันนั้น ) นั่งอยู่ในท่ามกลางภิกษุผู้มีฤทธิ์ประมาณ ๓๐,๐๐๐ รูป ผู้มา
อุปฐากไข้พระมหาโรหณคุตตเถระที่เถริมพัตถละ (วิหาร ) เห็นพญา
ครุฑถาโถมลงมาแต่อากาศหมายจักจับพญานาค ( จำแลง ) ผู้เป็น
อุปฐาก ซึ่งกำลังประเคนข้าวยาคูแด่พระเถระอยู่ ก็นิรมิตภูเขาขึ้นแล้ว
ใช้แขนโอบเอาพญานาคเข้าไปใน (ช่อง) เขานั้นเสียทันใด พญา
ครุฑปะทะภูเขาเข้าก็หนีไป พระมหาเถระจึงกล่าวขึ้นว่า " อาวุโส
ทั้งหลาย ถ้าพุทธรักขิตจักไม่มีอยู่แล้วไซร้ พวกเราทุกคนก็จักเป็นผู้
ถูกตำหนิ " ดังนี้
ส่วนปัจจเวกขณวสี เป็นอันกล่าวแล้วด้วยอาวัชชนวสีนั่นเอง
มหาฎีกาว่า อาวัชชนวสี ของท่านผู้อื่นนั้นถึงแม้จะรวดเร็ว แต่ก็ชั่วกาลอันสั้น ไม่
เหมือนของพระศาสดาดังในคราวยมกปาฏิหาริย์ ซึ่งทรงทำได้ต่อกันไปนาน เป็น
อสาธารณปาฏิหาริย์ ไม่มีผู้ใดทำได้