ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 297
เป็นวินิจฉัยในบทนี้ คือการนำเข้าไป ชื่อ อุปนยะ ธรรมย่อมควร
ซึ่งการที่บุคคลแม้ผ้าหรือศีรษะไฟไหม้ก็เฉย (คง) นำเข้าไปในจิตของ
ตน ๆ โดยทำให้มีขึ้นจนได้ เพราะเหตุนั้น ธรรมนั้นจึงชื่อ อุปนยิกะ
อุปนิยกะนั้นเองเป็นโอปนยิกะ คำวิเคราะห์นี้ใช้ได้ในโลกุตตรธรรม
ที่เป็นสังขตะ ส่วนในโลกุตตรธรรมที่เป็นอสังขตะ (วิเคราะห์ว่า)
ธรรมนั้นควรซึ่งการนำเข้าไปด้วยจิต เหตุนั้นจึงชื่อ โอปนยิกะ
หมายความว่าควรซึ่งการผนึกเข้าโดยทำให้แจ้ง หรือมิฉะนั้น ธรรม
คือ ) อริยมรรค ชื่อว่า อุปเนยย เพราะนำ ( พระอริยบุคคล) เข้าไป
ถึงพระนิพพาน ธรรมคือผล แลพระนิพพานชื่อว่า อุปเนยฺย เพราะ
เป็นธรรมที่บุคคลพึงนำเข้าไปถึงความที่จะพึงทำให้แจ้ง โอปนยิกะ ก็
อุปเนยฺย นั่นเอง
(แก้บท ปจฺจตฺติ เวทิตพฺโพ วิญญูหิ
บทว่า ปจฺจตฺติ เวทิตพฺโพ วิญญูหิ ความว่า อันวิญญูชน
ทั้งหลายมีอุคฆติตัญญูบุคคลเป็นต้นทั้งปวงจึง "รู้ว่า " มรรค
เราเจริญแล้ว ผลเราบรรลุแล้ว นิโรธเราทำให้แจ้งแล้ว " เพราะว่า
กิเลสทั้งหลายของสัทธิวิหาริกจะละด้วยมรรคที่พระอุปัชฌายะเจริญ
หาได้ไม่ เธอจะอยู่เป็นผาสุกด้วยผลสมาบัติของท่านก็ไม่ได้ จะทำให้
แจ้งซึ่งพระนิพพานที่ท่านทำให้แจ้งก็ไม่ได้ เพราะเหตุนั้น จึงมีคำ
อธิบายว่า โลกุตตรธรรมนั่น บุคคลไม่พึงเห็นดังเช่นเครื่องประดับที่
ศีรษะของคนอื่น ( ซึ่งจะฉวยเอามาประดับที่ศีรษะของตัวเองได้) แต่พึง
(
เห็นว่าธรรมอันวิญญูชนทั้งหลายจะพึงเสวยอยู่ในจิตของตัวเองเท่านั้น