ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 215
ที่ ๑ อยู่ ปฐมฌานเป็นรูปาวจร เป็นอันเธอบรรลุแล้ว วิหารธรรม
อันเป็นทิพย์ ก็เป็นอันเธอได้บรรลุ และบุญกิริยาวัตถุส่วนภาวนามัย
ก็เป็นอันเธอได้บรรลุด้วย "
[วัตรในการไปดูอสุภ]
เพราะเหตุนั้น ภิกษุใดจะไปเยี่ยมป่าช้า เพื่อประโยชน์แก่การ
ยังจิตให้ได้สำนึก ภิกษุนั้นจงเคาะระฆัง ยังคณะ พระกรรมฐานด้วย
กัน ) ให้ประชุม ( บอกกันให้ทราบก่อน) ก็ได้แล้วจึงไป ก็แลเมื่อไป
ด้วย (มุ่ง ) กรรมฐานเป็นสำคัญ จึงเป็นคนผู้เดียวไม่ (ต้อง) มีสหาย
เป็นผู้ไม่ละทิ้งมูลกรรมฐาน มนสิการมูลกรรมฐานนั้นไว้เรื่อยไป
ถือไม้เท้าหรือไม้ถือ ( ไปด้วย ) เพื่อกันอันตรายมีสุนัขเป็นต้นในป่าช้า
ทำสติไว้มิให้หลงลืม โดยยังความเป็นผู้มั่นคง ( ในกรรมฐาน ) ให้
ถึงพร้อม เป็นผู้มีใจไม่ไปนอกตัวโดยยังความที่อินทรีย์ทั้งหลาย
มีใจเป็นที่ ๖ อยู่กับตัวให้ถึงพร้อม (เดิน) ไปเถิด
พอออกจากวิหาร พึงสังเกตประตูไว้ว่า " เราออกทางประตูโน้น
ในทิศโน้น " ต่อนั้น เธอไปโดยทางใด พึงกำหนดจำทางนั้นไว้ว่า
" ทางนี้ตรงไปทิศตะวันออก หรือว่า ตรงไปทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้
หรือว่าตรงไปทิศเฉียง " อนึ่งพระโยคาวจร จึงกำหนดทางที่ (เดิน)
ไปว่า " ตรงนี้ไปทางซ้าย ตรงนี้ไปทางขวา และในที่แห่งอสุภนั้น
ตจปัญจกกรรมฐาน ที่พระอุปัชฌายะบอกให้เมื่ออุปสมบทได้ยินเรียกมูลกรรมฐาน
แปลว่ากรรมฐานดั้งเดิม ฟังดูก็สม แต่ในที่นี้มหาฎีกาแก้ไว้ว่า มูลกรรมฐานหมาย
เอาสัพพัตถกกรรมฐานมีพุทธานุสสติเป็นอาทิ ที่พระโยคาวจรนั้นบำเพ็ญอยู่ตามปกติ