ข้อความต้นฉบับในหน้า
(
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 283
อธิบายว่าทรงจำแนก ทรงเปิดเผย ทรงแสดง ซึ่งธรรมทั้งปวง โดย
ประเภททั้งหลาย มีประเภทกุศลเป็นต้น หรือว่าซึ่งธรรมมีกุศลธรรม
เป็นอาทิ โดยประเภท ขันธ์ อายตนะ ธาตุ สัจจะ อินทรีย์ และ
ปฏิจจสมุบาทเป็นต้น หรือว่าซึ่งอริยสัจคือทุกข์ โดยอรรถ (4) คือ
ปีฬนะ ( บีบคั้น ) สังขตะ (อันปัจจัยปรุงแต่ง ) สันตาปะ ( แผดเผา )
วิปริณาม (แปรปรวน ) ซึ่งอริยสัจคือสมุทัย โดยอรรถ (๔) คือ
อายูหนะ ( ประมวลมา ซึ่งทุกข์ ) นิทานะ ( เป็นเหตุแห่งทุกข์ ) สังโยคะ
( ผูกไว้กับทุกข์ ) ปลิโพธะ (หน่วงไว้มิให้ถึงมรรค) ซึ่งอริยสัจคือ
นิโรธ โดยอรรถ (๔) คือ นิสสรณะ (ออกไปจากทุกข์ ) วิเวก (สงัด
จากทุกข์ ) อสังขตะ (อันปัจจัยมิได้ปรุงแต่ง ) อมตะ ( เป็นสภาพไม่ตาย)
ซึ่งอริยสัจคือมรรค โดยอรรถ (๔) คือ นิยยานิกะ ( นำออกจากทุกข์ )
เหตุ ( เป็นเหตุแห่งนิโรธ ) ทัสสนะ ( เป็นเครื่องเห็นแจ้งพระนิพพาน)
อธิปไตย ( เป็นใหญ่ในการเห็นอริยสัจ ) เพราะเหตุนั้น เมื่อน่าจะ
เรียกว่า พระ วิภตฺตวา ( แต่ ) เรียกเสียว่า พระภควา
[แก้บท ภตฺตวา]
อนึ่ง เพราะเหตุที่พระผู้มีพระภาคเจ้านั้นทรงคบ คือทรงเสพ
ทรงทำให้มาก ซึ่งธรรมอันเป็นทิพวิหาร พรหมวิหาร และอริยวิหาร
ซึ่งกายวิเวก จิตวิเวก และอุปธิวิเวก ซึ่งสุญญตวิโมกข์อัปปณิหิต
วิโมกข์ และอนิมิตวิโมกข์ และซึ่งอุตตริมนุสสธรรมทั้งที่เป็นโลกิยะ
๑. อรรถแห่งอริยสัจ ๑๖ อย่างนี้ มหาฎีกาท่านเรียก โสฬสาการ (อาการ ๑๖)
๒. ทิพวิหาร ได้แก่รูปาวจรฌาน อริยวิหาร ได้แก่ผลสมาบัติ