ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 188
ฌัตตตา อนึ่ง มิใช่ว่าสติอย่างเดียวเท่านั้นที่บริสุทธิ์เพราะอุเบกขานั้น
ในฌานนี้ ที่แท้แม้สัมปยุตธรรม (ธรรมที่ประกอบกับสติ) ทั้งปวงก็
บริสุทธิ์ไปด้วย เป็นแต่ตรัสเทศนาโดย ( ยก) สติเป็นประธาน ใน
ฌานเหล่านั้น อุเบกขานี้ย่อมมีแม้ในฌาน ๓ เบื้องต่ำด้วยก็จริงแล
แต่ทว่าเปรียบเหมือนจันทรเลขา ถึงว่ามีอยู่ในกลางวัน ก็ย่อมไม่แจ่ม
ไม่กระจ่าง เพราะถูกแสงอาทิตย์ในกลางวันข่มประการหนึ่ง เพราะ
ไม่ได้ราตรี (กาล ) เป็นสภาคกัน โดยความเป็นโสม ( คือแสงอ่อน
ด้วยกัน ) หรือโดยความที่ราตรีเป็นสภาพที่สนับสนุนตน ประการหนึ่ง
ฉันใด แม้จันทรเลขาคือ ตัตรมัชฌัตตุเบกขานี้ก็ฉันนั้น ถึงว่ามีอยู่ก็ไม่
บริสุทธิ์ในฌานต่างประเภทมีปฐมฌานเป็นต้น เพราะถูกเดชแห่ง
ปัจจนึกธรรมมีวิตกเป็นอาทิข่มอยู่ประการหนึ่ง เพราะไม่ได้ราตรีคือ
อุเบกขาเวทนาอันเป็นสภาคกัน (สนับสนุน) ประการหนึ่ง และเมื่อ
อุเบกขาไม่บริสุทธิ์แล้ว แม้สหชาตธรรมทั้งหลายมีสติเป็นอาทิ
ก็ไม่บริสุทธิ์ไปตามกัน ดุจแสงของจันทรเลขาไม่กระจ่างใน
กลางวันก็ย่อมไม่แจ่มฉะนั้น เพราะเหตุนั้น ในฌานเบื้องต่ำทั้ง ๓ นั้น
จึงไม่ตรัสว่า อุเปกขาสติปาริสุทธิ์ แม้ฌานเดียว แต่ในจตุตถฌานนี้
จันทรเลขาคือศัตรมัชฌัตตุเบกขานี้ บริสุทธิ์ยิ่งนัก เพราะไม่มีเดช
แห่งปัจจนึกธรรมมีวิตกเป็นต้นข่ม และเพราะได้ราตรีคืออุเบกขา
เวทนาอันเป็นสภาคกัน (สนับสนุน) ด้วย เพราะความที่อุเบกขานั้น
บริสุทธิ์แล้ว แม้สหชาตธรรมทั้งหลายมีสติเป็นอาทิ ก็เป็นบริสุทธิ์
ผุดผ่องไปด้วย ดุจแสงจันทร์เลขาที่กระจ่าง (ก็ย่อมแจ่ม ) ฉะนั้น