ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 189
เพราะเหตุนั้น บัณฑิตพึงทราบเถิดว่า จตุตถฌานนี้เท่านั้น พระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสว่า อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ
บทว่า จตุตถ์ คือฌานนี้เป็นที่ ๔ เพราะมีลำดับแห่งจำนวน
บ้างว่าชื่อ ) จตุตถะ เพราะพระโยคาวจรเข้าถึงฌานนี้เป็นที่ 4
ส่วนคำใดที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า จตุตถฌานละองค์ ๑ ประกอบ
ด้วยองค์ ๒ บัณฑิตพึงทราบอรรถาธิบายในคำนั้นต่อไป ความที่
จตุตถฌานละองค์ ๑ พึงทราบโดยการละโสมนัส ก็แลโสมนัสนั้น
ละได้แต่ในชวนะต้นๆ ในวิถีอันเดียวเพราะฉะนั้น โสมนัสนั้นจึง
เรียกว่า ปหานังคะ (องค์ที่พึงละ) ส่วนความที่จตุตถฌานประกอบด้วย
องค์ ๒ พึงทราบโดยความเกิดขึ้นแห่งองค์ ๒ นี้ คือ อุเบกขาเวทนา
เอกัคคตา คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วในปฐมฌาน นี่เป็นนัย
ในจตุกฌาน ( ฌานหมวด ๔ ) ก่อน
[ ปัญจกฌาน ฌานหมวด ๕ ]
ส่วนว่าพระโยคาวจรผู้จะยังปัญจกฌานให้เกิด ออกจากปฐม
ฌานอันช่ำชองแล้ว ( พิจารณา) เห็นโทษในปฐมฌานนั้นว่า " สมาบัติ
นี้มีข้าศึกคือนิวรณ์อยู่ใกล้ " และว่า " สมาบัตินี้นับว่ามีองค์ทราม
เพราะความที่วิตกเป็นองค์หยาบ " ดังนี้แล้ว พึงทำในใจถึงทุติยฌาน
โดยว่าเป็นธรรมละเอียด ปล่อยวางความพอใจในปฐมฌานเสีย ทำ
โยคะเพื่อบรรลุทุติยฌาน (ต่อไป) ครั้นเมื่อพระโยคาวจรนั้นออกจาก
ปฐมฌานแล้ว มีสติสัมปชัญญะปัจจเวกขณ์องค์ฌานทั้งหลายอยู่
วิตกอย่างเดียวปรากฏโดยความเป็นองค์หยาบ องค์ ๔ มีวิจารเป็นต้น