ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 29
ไม่ได้เรียนต่ออาจริยมุข (ปากของอาจารย์) จึงไม่อาจยืนยันว่า
อาจาย์ทั้งหลายกล่าวอย่างนี้ ( เพราะฉะนั้น) เธอจงไปฟังในสำนักแห่ง
อาจารย์ทั้งหลาย ที่ควรจะเป็นอาจารย์) ของตนเถิด” เธอกราบเรียน
ถาม ( หารือ ) ว่า จะไปที่ไหน (ดี) พระอุปัชฌาย์จึงบอกว่า พระเถระ
ชื่อ มหาธรรมรักขิต ผู้เชี่ยวชาญปริยัติทั้งปวง” อยู่ประจำ ณ วัดเขา
ตุลาธารบรรพตในโรหณชนบทฟากแม่น้ำข้างโน้น เธอจงไปสู่สำนัก
ของท่านเถิด
พระจุฬาภัยรับคำ กราบพระเถระแล้ว (ต่อมา ) ไปสู่สำนักพระ
( ธรรมรักขิต ) เถระ พร้อมด้วยภิกษุ ( บริวาร ) ๕00 ( ครั้นไปถึงแล้ว
เข้าไป ) กราบแล้ว นั่งลง พระเถระถามว่า มาทำไม ก็ทราบเรียนว่า
มาเพื่อฟังธรรม พระเถระจึงว่า อาวุโสอภัยภิกษุทั้งหลายมาถามฉัน
ในทีฆนิกายและมัชฌิมนิกาย ( บ้าง ) เป็นครั้งเป็นคราวส่วนสูตรที่เหลือ
ฉันไม่เคยเหลียวแลมาประมาณ ๓๐ ปีแล้ว เอาอย่างนี้เถิด กลางคืน
เธอ ( มา ) ปริวัตร ในสำนักของฉัน กลางวันฉันจักกล่าวแก่เธอ ( ให้ฟัง
ว่าผิดถูกอย่างไร ) พระจุฬาภัยตกลงทำอย่างนั้น พวกชาวบ้านให้ทำ
๑. อตฺตโน อาจริยาน์ จะแปลตรงๆ ว่า "แห่งอาจารย์ของตน"ไม่ได้กับความจริง
เพราะพระจุฬาภัย ไม่มีอาจารย์ และท่านที่พระเถระจะแนะนำให้ไปหา ก็ยังไม่ได้เป็น
อาจารย์ของพระจุฬาภัย มหาฎีกาท่านก็เห็นเช่นนี้ จึงแนะให้เติมข้อความ อตฺตโน กเถ
ยุตฺตานํ อาจริยาน์ (แห่งอาจารทั้งหลาย ผู้ควรจะกล่าวแก้แก่ตน ) ในที่นี้เห็นว่า บท
อตฺตโน เดิมรูปจะเป็น ฉัฏฐีวิภัติ แต่ที่ มหาฎีกาแก้ไปนั้น กลายเป็นจตุตถีวิภัติไป
เพื่อจะให้บท อตฺตโน คงเป็น ฉัฏฐี จึงคิดเติมข้อความไปอีกท่อนหนึ่งดังนั้น โดยอาศัย
นัยแห่ง มหาฎีกาเป็นเค้า
๒. สพฺพปริยตฺติโก มหาฎีกาท่านไขว่า ก็ เตปิฏโก นั้นเอง ( เพราะถ้าไม่ทรงพระไตร
ปิฎกแล้ว จะยกให้เป็นผู้เชี่ยวชาญสรรพปริยัติหาได้ไม่)