ข้อความต้นฉบับในหน้า
*
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 175
สวัสติกะสามเฉก ( ที่หัวมัน ) แล้วสิ้นสงสัยความวางเฉยในการที่จะ
เฟ้นว่างูไม่ใช่งูก็ย่อมมีฉันใด เมื่อเห็นลักษณะ ๓ ด้วยวิปัสสนา
ญาณแล้ว ความวางเฉยอันใดในอันที่จะเฟ้นความไม่เที่ยงแห่ง
สังขารทั้งหลายเป็นต้นย่อมเกิดขึ้นแก่พระโยคาวจรผู้ทำวิปัสสนา ฉันนั้น
เหมือนกัน ความวางเฉย ( ในการเฟ้นสังขาร ) นี้ ชื่อว่าวิปัสสนูเบกขา
ส่วนว่าเมื่อบุรุษนั้น ( กด )จับงูไว้มั่นด้วยไม้ง่ามแล้วคิดจะปล่อยมัน
ไป ( โดย ) ไม่เบียดเบียนมันด้วย ไม่ให้มันกัดตัวด้วย (ตรอง) หา
วิธีการจะปล่อยอยู่นั่นแล ความวางเฉยในอันจะจับเอา (งู) ไว้ย่อมมี
ฉันใด เมื่อพระโยคาวจรเห็นภพ ๓ ดุจถูกไฟไหม้เพราะเห็นลักษณะ
๓ แล้ว ความวางเฉยอันใดในอันที่จะยึดถือเอาสังขารไว้ ย่อมมี
ฉันนั้นแล ความวางเฉย ( ในการยึดสังขาร) นี้ชื่อว่า สังขารุเบกขา
โดยประการดังนี้ เมื่อวิปัสสนูเบกขาสำเร็จแล้ว แม้สังขารุเบกขา
ก็เป็นอันสำเร็จด้วยแท้ อันอุเบกขานี้แตกเป็น ๒ โดยกิจ กล่าวคือ
ความวางเฉยในความเฟ้น ( สังขาร ) และ ( วางเฉยใน )
ความยึดถือ ( สังขาร ) ไว้ (ดัง) นี้แล
ส่วนวิริยุเบกขาและเวทนูเบกขา ต่างกันและกันด้วย โดยความ
ก็ต่างจากอุเบกขานอกนั้นด้วยแท้แล
โดยนัยดังนี้ ในอุเบกขาเหล่านี้ ฌานุเบกขาท่านประสงค์เอา
ในที่นี้ ฌานุเบกขานั้นมีความวางเฉยเป็นลักษณะ มีความไม่
โสตถิกฤตย์ ไทยเราเรียก "ดอกจันทน์" นักปราชญ์ว่า เครื่องหมายสวัสดิกะ
มี ๒ อย่าง คือสี่แฉกอย่างหนึ่ง สามแฉกอย่างหนึ่ง สวัสติกะสี่แฉกเป็นเครื่องหมาย
ข้างดี สวัสติกะสามแฉกเป็นครองหมายข้างร้าย