ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 243
เหม็นและน่าเกลียดดังนี้ ก็แต่บุคคลทั้งหลายขัดสีมลทินทั้งหลายมี
มลทินแห่งฟันเป็นต้นในสรีระนี้ ด้วยกิจมีสีฟันและบ้วนปากเป็นอาทิ
ปกปิดอวัยวะอันจะพร่าความอายเสียด้วยผ้านานาพรรณ ลูบไล้ด้วย
เครื่องลูบไล้อันหอมหลากๆ สี ประดับประดาด้วยเครื่องประดับมี
ดอกไม้และเครื่องอาภรณ์เป็นต้น ทำให้ถึงซึ่งอาการที่พอจะถือเอาได้
ว่าฉัน ว่าของฉัน แต่นั้นเขาทั้งหลาย ก็จำลักษณะอสุภอันเป็นสภาพ
แท้จริงอย่างไรของมันนั้นไม่ได้ เพราะมันถูกปิดไว้ด้วยเครื่องอลังการ
อันเป็นอาคันตุกะนี้ พวกที่เป็นบุรุษจึงทำความยินดีในสตรีทั้งหลาย
พวกที่เป็นสตรีจึงทำความยินดีในบุรุษทั้งหลายแต่โดยปรมัตถ์แล้ว
ชื่อว่าแห่งที่ควรแก่ความน่าใคร่ในสรีระนี้ แม้สักนิดหนึ่งก็ไม่มี จริง
อย่างนั้น สัตว์ทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏแม้แต่จะแตะต้องด้วยมือ
ย่อมสะอิดสะเอียนเกลียดชังซึ่งโกฏฐาส (แห่งร่างกาย) ในบรรดา
โกฏฐาสทั้งหลายมี ผม ขน เล็บ ฟัน และน้ำลาย น้ำมูก อุจจาระ
ปัสสาวะเป็นต้น แม้แต่โกฏฐาสหนึ่งซึ่งตกไปนอกกายแล้วแต่ว่า
โกฏฐาสใดๆ ที่ยังเหลืออยู่ในสรีระนั้น เขาทั้งหลายผู้ถูกความมืดคือ
อวิชชาหุ้มห่อแล้ว ถูกเครื่องย้อม ( ใจ )กล่าวคือความรักตัวย้อมเอา
แล้ว ก็ยังถือเอาโกฐาสนั้นๆ แม้เป็นของปฏิกูล อย่างนี้ว่า เป็น
ของน่าปรารถนา น่าใคร่เป็นของเที่ยง เป็นสุข เป็นตัวตน เขา
ทั้งหลายถืออยู่อย่างนั้น ก็นับว่าถึงความเสมอกันกับจิ้งจอกแก่ผู้เห็นต้น
ทองกวาวในดง แล้วร้อนใจด้วยสำคัญดอก (ทองกวาว ) ที่ยังไม่หล่น
จากต้นว่า นี่ชิ้นเนื้อ นั่นชิ้นเนื้อ นั่นเอง เพราะเหตุนั้น