ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 105
เล็บ ขน (จมูก?) ของพระโยคาวจรนั้นยาวหรือว่าร่างกายมี
เหงื่อไคลจับก็ดี เมื่อนั้น ชื่อว่า วัตถุภายในไม่สดใส คือไม่หมด
จด ส่วนว่าเมื่อใดจีวรของเธอคร่ำคร่า เปื้อนเปรอะ เหม็นสาบ
หรือว่าเสนาสนะรกเรือก็ดี เมื่อนั้นชื่อว่าวัตถุภายนอกไม่สดใส คือ
ไม่สะอาด ก็แลเมื่อวัตถุภายในและภายนอกไม่สดใส แม้ญาณใน
จิตเจตสิกทั้งหลายที่เกิดขึ้น ก็พลอยไม่หมดจดไปด้วย ดุจแสงของ
เปลวประทีปที่อาศัยโคม ไส้ และน้ำมันอันไม่สะอาดเกิดขึ้น ก็ไม่
สดใสด้วยฉะนั้น และเมื่อพระโยคาวจรพิจารณาสังขารด้วยญาณ
อันไม่หมดจดเล่า สังขารทั้งหลายก็จะไม่ปรากฏชัด แม้นประกอบ
กรรมฐานไป กรรมฐานก็ไม่ถึงความงอกงามไพบูลย์ด้วย แต่
เมื่อวัตถุภายในและภายนอกสดใส แม้ญาณในเจตสิกทั้งหลายที่
เกิดขึ้นก็พลอยหมดจดไปด้วย ดุจแสงของเปลวประทีปที่อาศัยโคม ไส้
และน้ำมันสะอาดเกิดขึ้น ก็สดใสไปด้วยฉะนั้น และเมื่อพระ
โยคาวจรพิจารณาสังขารด้วยญาณอันหมดจดเล่า สังขารทั้งหลายก็
จะปรากฏชัด แม้ประกอบกรรมฐานไป กรรมฐานก็จะถึงความ
เจริญงอกงามไพบูลย์ด้วย
(๒) การปรับอินทรีย์ให้เสมอกัน
การทำความเสมอภาคกันแห่งอินทรีย์ทั้งหลายมีศรัทธาเป็นต้น ชื่อ
ว่า การปรับอินทรีย์ให้เสมอกัน เพราะว่าถ้าสัทธินทรีย์ของเธอกล้า
อินทรีย์นอกนั้นอ่อนไซร้ ทีนั้น วิริยินทรีย์ ก็ไม่อาจจะทำปัคคหกิจ
(กิจคือการยกจิตไว้ ) สตินทรีย์ ไม่อาจทำอุปัฏฐานกิจ (กิจคือ