ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 179
"เป็นผู้วางเฉยมีสติเป็นสุขวิหารี ( มีปกติอยู่เป็นสุข ) " พระโยคาวจร
เข้าถึงตติยฌานนั้นอยู่"
ถามว่า " ก็เพราะเหตุไฉน ท่านจึงสรรเสริญบุคคลผู้ได้ตติย
ฌานนั้นอย่างนี้ ? "
แก้ว่า " เพราะควรแก่การสรรเสริญ แท้จริง ผู้ได้ตติยฌานนี้
เพราะเหตุที่เป็นผู้วางเฉยได้ ใน ( ขณะแห่ง )ตติยฌานที่แม้มีความ
สุขอย่างหวานยิ่ง ถึงขนาดเป็นสุขบารมี ก็ไม่ถูกเครื่องติดข้องคือ
ความสุขในตติยฌานนั้นดึงเหนี่ยวไว้ประการ ๑ เพรา
๏ เพราะเหตุที่เป็นผู้ชื่อ
ว่ามีสติ เพราะคว
ราะความที่มีสติตั้งมั่นอยู่จนปีติเกิดขึ้นไม่ได้ประการ ๑
เพราะเหตุที่ได้เสวยสุขอันไม่เศร้าหมอง เป็นสุขที่พระอริยะใคร่ใจ
และเป็นสุขที่อริยชนเสพโดยแท้ด้วยนามกายประการ ๑ เพราะเหตุนั้น
จึงเป็นผู้ควรแก่การสรรเสริญ บัณฑิตพึงทราบว่า เพราะควรแก่การ
สรรเสริญ ดังกล่าวมาฉะนี้ พระอริยะเหล่านั้น จะประกาศคุณอันเป็น
เหตุแห่งความสรรเสริญอย่างนี้ จึงสรรเสริญบุคคลผู้ได้ตติยฌาน
นั้นว่า " ผู้วางเฉย มีสติ เป็นสุขวิหารี " ดังนี้
บทว่า " ตติย์ " คือฌานนี้เป็นที่ ๓ เพราะมีลำดับแห่งจำนวน
บ้างชื่อว่า ตติยะ เพราะพระโยคาวจรเข้าถึงฌานนี้เป็นที่ ๓
ส่วนในคำใดที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า " ตติยฌานละองค์ ๑ ประกอบ
ด้วยองค์ ๒ " ดังนี้ บัณฑิตพึงทราบวินิจฉัยในคำนั้น (ต่อไป) ความ
ที่ตติยฌานละองค์ ๑ พึงทราบโดยที่ละปีติได้ ก็แลปีตินี้นั้นละไปใน
"
* สุขที่จะส่งให้ถึงฝั่ง คือเป็นนิรามิสสุขอย่างเยี่ยม