วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที 151 วิสุทธิมรรคแปล ภาค 1 ตอน 2 หน้า 153
หน้าที่ 153 / 324

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการปฏิบัติทางจิตในวิสุทธิมรรค โดยชี้ให้เห็นความสำคัญของอุเบกขาในการทำให้จิตผ่องแผ้วและพ้นจากกิเลสต่างๆ การบรรลุญาณสามารถทำให้สัมผัสถึงความสำเร็จและความสงบของจิต รวมถึงการคงไว้ซึ่งความคล่องแคล่วและการพัฒนาคุณธรรมในจิตใจ สิ่งเหล่านี้ดำเนินไปตรงตามอำนาจของปัญญาและความพึงพอใจในธรรม.

หัวข้อประเด็น

-การปฏิบัติทางจิต
-อุเบกขา
-ญาณ
-การพ้นจากกิเลส
-ความผ่องแผ้ว

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที 151 มีรสอันเดียว (แห่งอินทรีย์ทั้งหลาย) ให้เป็นไปก็ดีอาเสวนา (ความ คล่อง ) แห่งฌานจิตนั้นใดเป็นไปแล้วในขณะนั้นก็ดี อาการทั้งปวง นั้นชื่อว่าสำเร็จ เพราะเป็นอาการที่พระโยคาวจรเห็นโทษและอานิสงส์ นั้นๆ ในเพราะความเศร้าหมอง และความผ่องแผ้ว ด้วยญาณแล้ว ยังจิตให้ร่าเริงคือให้หมดจด ให้ผ่องแผ้วได้โดยอาการนั้นๆ เพราะ เหตุใด เพราะเหตุนั้นข้าพเจ้าจึงกล่าวว่า สมุปห์สนา บัณฑิตพึงทราบ โดยว่าเป็นความสำเร็จกิจแห่งญาณอันทำให้ผ่องแผ้ว โดยยังภาวะคือ " ความไม่เป็นไปล่วงเลยกันแห่งธรรมทั้งหลายเป็นอาทิให้สำเร็จ " ดังนี้ เพราะเหตุที่ในภาวนาจิตนั้น ญาณย่อมปรากฏด้วยอำนาจแห่ง อุเบกขา ดังพระบาลีว่า พระโยคาวจรย่อมเพ่งดูอยู่เฉยๆ ด้วยดีซึ่งจิต ที่ยกขึ้น ( ด้วยวิริยสัมโพชฌงค์ ) อย่างนั้นแล้ว ปัญญินทรีย์ ย่อมเป็นคุณมีประมาณยิ่งด้วยอำนาจแห่งอุเบกขาและด้วยอำนาจแห่ง ปัญญา จิตย่อมพ้นจากกิเลสอันมีสภาพต่างๆ ด้วยอำนาจแห่งอุเบกขา ปัญญินทรีย์ย่อมเป็นคุณมีประมาณยิ่งด้วยอำนาจแห่งความพ้น และ ด้วยอำนาจแห่งปัญญา เพราะพ้น (จากกิเลสต่างๆ) แล้ว ธรรม ทั้งหลายเหล่านั้น ( มีศรัทธาเป็นต้น ) ย่อมเป็นธรรมมีรสเป็นอันเดียว * มหาฎีกาอธิบายว่า คำว่า "ในขณะนั้น" หมายความในภังคขณะ เพราะเมื่ออุปปาทขณะ ล่วงไปแล้ว ตั้งแต่ฐิติขณะไป อาเสวนจึงเป็นไป อาเสวนก็คืออาการที่เป็นไปแห่ง ธรรมทั้งหลาย ที่เป็นส่วนอาเสวนปัจจัย ในมหาฎีกาภาค ๑ หน้า ๑๒๐ แก้ศัพท์ อาเสวนา ไว้ว่า....สมาธิสฺส อาเสวนาย ปคุณพลวภาวาย สวตฺตนฺติ... (ศีลอย่างนี้ย่อมเป็นไปเพื่ออาเสวน คือเพื่อความมี กําลังด้วยความคล่องแห่งสมาธิ)
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More