ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 34
ดังกล่าวมานี้ ท่านผู้นี้ชื่อว่า กัมมฐานทายกะ ) ผู้ให้กรรมฐาน
พระโยคาวจร จึงเข้าไปหาท่านผู้ให้กรรมฐานนั้น
[กัลยาณมิตร]
คำว่า ผู้เป็นกัลยาณมิตร คือผู้เป็นมิตรที่ดี ผู้ตั้ง (ตน) อยู่ใน
ฝ่ายเจริญ แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล (ผู้อื่น ) ไปฝ่ายเดียว กอบด้วยคุณ
มีคุณอย่างนี้ คือ
น่ารัก ๑ น่าเคารพ ๑ น่ายกย่อง ๑ เป็น
ผู้ว่ากล่าว (คนอื่น ไม่เฉยเมย) ๑
เป็นผู้ยอม
ให้ (คนอื่น) ว่ากล่าว ( ไม่หัวดื้อ) ๑ แต่ง
( ธรรม ) ถกาอันลึกซึ้งได้ ๑ ไม่ชักชวน
(ผู้อื่น) ในที่อันไม่ควร ๑
เป็นอาทิ ก็เพราะพระพุทธพจน์ว่า ดูกรอานนท์ จริงอยู่ สัตว์ทั้งหลาย
ผู้มีความเกิดเป็นธรรมดา อาศัยเราเป็นกัลยาณมิตรแล้ว ย่อม
พ้นจากความเกิดได้ ดังนี้เป็นต้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียว
จึงเป็นกัลยาณมิตรที่ถึงพร้อมด้วยอาการทั้งปวง เพราะเหตุนั้น เมื่อ
พระองค์ยังเสด็จอยู่ กรรมฐานที่ถือเอาในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า
นั้นเท่านั้น จึงเป็นอันถือเอาอย่างดี แต่เมื่อพระองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว
บรรดาพระมหาสาวก ๘๐ องค์ พระมหาสาวกองค์ใดยังทรงชีพอยู่
ถือเอา ( กรรมฐาน ) ในสำนักพระมหาสาวกองค์นั้น จึงควรแม้นพระ
มหาสาวกนั้นไม่มี ตนใคร่จะถือกรรมฐานบทใด ก็พึงถือเอาในสำนัก
พระขีณาสพผู้ที่ทำจตุกฌานหรือปัญจกฌานให้เกิดด้วยอำนาจ