ข้อความต้นฉบับในหน้า
*
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 247
นุสตินั่น เป็นคำเรียกสติอันมีคุณมีศรัทธาเป็นต้นของตน ตั้งเทวดาไว้
ในฐานะพยานเป็นอารมณ์
สติอันปรารภความตายเกิดขึ้น ชื่อ มรณานุสติ คำว่า มรณา
นุสตินั่น เป็นคำเรียกสติอันมีความขาดแห่งชีวิตินทรีย์เป็นอารมณ์
สติชื่อกายคตา เพราะไปสู่รูปกายอันต่างโดยโกฏฐาสมีผมเป็นต้น
หรือว่า เพราะไปในกาย เมื่อควรจะกล่าว(วิเคราะห์ ) ว่า กายคตา
จ สา สติ จาติ กายคตาสติ (สตินั้นด้วย ไปในกายด้วย เหตุนั้น
จึงชื่อว่ากายคตสติ แต่ท่านไม่ทำรัสสะ กล่าวว่า กายคตาสติคำว่า
กายคตาสตินั่น เป็นคำเรียกสติอันมี (ปฏิกูล) นิมิตในโกฐาสแห่ง
กายมีผมเป็นต้นเป็นอารมณ์
สติอันปรารภลมหายใจเข้าและลมหายใจออกเกิดขึ้น ชื่ออานา
ปานสติ คำว่า อานาปานสตินั่น เป็นคำเรียกสติอันมีนิมิตในลม
หายใจเข้าและลมหายใจออกเป็นอารมณ์
อนุสติอันปรารภอุปสมะเกิดขึ้น ชื่อว่าอุปสมานุสติ คำว่า
อุปสมานุสตินั่น เป็นคำเรียกสติอันมีพระนิพพานซึ่งเป็นธรรมระงับแห่ง
สรรพทุกข์เป็นอารมณ์
[วิธีเจริญพุทธานุสติ]
ในอนุสติ ๑๐ มีประการดังกล่าวมานี้ พระโยคาวจรผู้กอปรด้วย
ความเลื่อมใสมั่น ใคร่จะเจริญพุทธานุสสติเป็นอันดับแรก จึงเป็นผู้
มหาฎีกาว่า กายคตาสติ และอานาปานสติ ๒ นี้ มีนิมิตเกิด ท่านจึงว่า ท่านจึงว่า มีนิมิตใน
โกฐาส... เป็นอารมณ์ และว่ามีนิมิตในลมหายใจ.... เป็นอารมณ์ อนุสตินอกนั้นไม่
มีนิมิตเกิด