ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 221
(อาการปฏิกูล ) มีแต่จะเป็นปัจจัยแห่งความ ( ใจ ) แกว่งไปต่าง ๆ
เพราะท่านกล่าวไว้ในอรรถกถามัชฌิมนิกายว่า " สตรีแม้ ( ตายจน)
ขึ้นพองแล้วก็ยังยึดจิตบุรุษไว้อยู่ เพราะเหตุนั้น พระโยคาวจรจึงถือเอา
นิมิตโดยอาการ 5 แต่ในร่างที่เป็นเพศเดียวกันเถิด
[ถือ โดยอาการ ๕ เพิ่มเติม]
ฝ่ายว่ากุลบุตรใด ( เคย ) เสพกรรมฐาน บริหารธุดงค์
มหาภูต (โดยจตุธาตุววัฏฐาน) จับสังขาร ( โดยลักขณญาณ )
กำหนดนามรูป เพิกสัตตสัญญา ทำสมณธรรม อบรมวาสนา บำเพ็ญ
ภาวนามาแล้วในสำนักของพระพุทธเจ้าในปางก่อนทั้งหลาย เป็นผู้มีพืช
(คือกุศลอันเป็นอุปนิสัยทางวิวัฏฏะ) เป็นผู้มีญาณยิ่ง มีกิเลสน้อย
ปฏิภาคนิมิตย่อมปรากฏแก่กุลบุตรผู้นั้นได้ทุกที่ๆ เธอได้ดู (อสุภ ) ถ้า
ไม่ปรากฏ ( โดยง่าย ) อย่างนั้น ครั้นเธอถือเอานิมิตโดยอาการ 5 ที่
กล่าวมาแล้วนั้น ก็จะปรากฏได้ แต่แม้ ( ถือเอาโดยอาการ ๖) อย่างนั้น
ก็ยังไม่ปรากฏแก่กุลบุตรใดกุลบุตรนั้นจึงควรถือเอานิมิตโดยอาการ ๕
ด้วยอีก คือ โดยที่ต่อ โดยช่อง โดยที่เว้า โดยที่นูน โดยรอบตัว
โดยที่ต่อ
ในข้อเหล่านั้น ข้อว่า โดยที่ต่อ ได้แก่โดยที่ต่อ ๑๘๐ แห่ง
แต่ว่าพระโยคาวจรจักกำหนดดูที่ต่อ (ตั้ง ) ๑๘๐ แห่งในอุทธุมาตกอสุภ
อย่างไรได้ เพราะฉะนั้นจึงกำหนดโดยที่ต่อแต่ตามที่ต่อใหญ่ ๑๔ แห่ง
มหาฎีกาเสริมความว่า ไม่ต้องเลือกกาล หรือสถานที่เป็นพิเศษแต่อย่างไร