ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 32
[กัมมฐาน ๒ และกัมมฐานทายกะ]
(
กรรมฐานมี ๒ อย่าง คือ สัพพัตถกกัมมฐาน ๑ ปาริหาริย
กัมมฐาน ๑ ในกรรมฐาน ๒ อย่างนั้น (กรรมฐานคือ ) เมตตา (อัน
แผ่ไป) ในประชาชนต่างๆ มีหมู่ภิกษุเป็นต้น ก็ดี มรณสติก็ดี ชื่อว่า
สัพพัตถกกัมมฐานอาจารย์พวกหนึ่งกล่าวว่า อสุภสัญญา (เป็น
สัพพัตถกกัมมฐาน ) ก็มี จริงอยู่ เมตตา (นั้น) ขั้นแรก ภิกษุผู้
บำเพ็ญกรรมฐาน พึงกำหนดเอาหมู่ภิกษุนั้นแล้ว เจริญไปในหมู่ภิกษุ
ผู้อยู่ในสีมา ( เดียวกันกับตน โดยนัยว่า ขอภิกษุผู้อยู่ในสีมาทั้งหลาย
จงเป็นผู้มีความสุข ไม่เบียดเบียนกันเถิด ต่อนั้นจึงเจริญไปในหมู่
เทวดาผู้อยู่ในสีมา (นั้น ) แต่นั้นจึงเจริญไปในหมู่อิสรชนในโคจรคาม
แล้วจึงเจริญไปในคน ( ชาวบ้าน)” ในโคจรคามนั้น ตลอดไปถึงสัตว์
(ดิรัจฉาน ) ทั้งปวง ก็แล ด้วยเมตตา ( ที่เธอเจริญไป) ในหมู่ภิกษุ
เธอย่อมทำให้ภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ร่วมกันเกิดมีจิตอ่อนโยน ( ในตัวเธอ
ได้)” เมื่อเป็นเช่นนั้น ภิกษุเหล่านั้นก็เป็นสุขสังวาส ( มีการอยู่
ร่วมกันเป็นสุข)สำหรับเธอ ด้วยเมตตา ( ที่เจริญไป ) ในหมู่เทวดา
ผู้อยู่ในสีมานั้น เธอจะเป็นผู้ที่เทวดาทั้งหลายผู้มีจิตอันเมตตานั้น
ทำให้อ่อนโยนแล้ว จัดการรักษาอย่างดี โดยการรักษาที่เป็นธรรม
ด้วยเมตตา ( ที่เจริญไป ) ในอิสรชนในโคจรคาม เธอจะเป็นผู้ที่
ด.
ตรงนี้ ปาฐะที่พิมพ์ไว้เป็น
ก็ยันอยู่ว่า มนุสฺเสสุ เมตตาย
มนุสเส น่าจะเป็น มนุสฺเสสุ ปาฐะต่อไปก่อนที่จะแสดงผล
๒. ปาฐะว่า สหวาสน์ มุทุจิตฺตต์ ชเนติ แปลโดยพยัญชนะว่ายังความที่ภิกษุทั้งหลาย
ผู้อยู่ด้วยกัน เป็นผู้มีจิตอ่อนโยน (ในตัวเธอ) ให้เกิด