ข้อความต้นฉบับในหน้า
*
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 134
นัยเดียวกันนั้น ในอกุศลมูล ๓ ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งโลภะอันมี
ประเภทแห่งกามคุณ ๕ เป็นอารมณ์ เป็นอันกล่าวด้วยบทแรก ความ
สงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งโทสะและโมหะ อันมีประเภทแห่งอาฆาตวัตถุ
เป็นต้นเป็นอารมณ์ เป็นอันกล่าวในบทที่ ๒ หรือว่าในธรรมทั้งหลาย
มีโอฆะเป็นต้น ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งกาโมฆะ กามโยคะ กามาสวะ
กามุปาทาน อภิชฌากายคันถะ และกามราคสังโยชน์ เป็นอันกล่าว
ด้วยบทแรก ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งโอฆะ โยคะอาสวะ อุปาทาน
กายคันถะ และสังโยชน์ที่เหลือ เป็นอันกล่าวด้วยบทที่ ๒ และความ
สงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งตัณหาและธรรมทั้งหลายที่สัมปยุตด้วยตัณหานั้น
เป็นอันกล่าวด้วยบทแรก ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งอวิชชาและธรรม
ทั้งหลายที่สัมปยุตตด้วยอวิชชานั้น เป็นอันกล่าวด้วยบทที่ ๒ อนึ่ง
ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งจิตตุบาทที่สัมปยุตตด้วยโลภะ ๘ ดวง เป็น
อันกล่าวด้วยบทแรก ความสงัดด้วยข่มไว้ได้ซึ่งอกุศลจิตตุบาทที่เหลือ
๔ ดวงเป็นอันกล่าวด้วยบทที่ ๒" ดังนี้
คำที่กล่าวมานี้ เป็นคำชี้แจงเนื้อความในฌานปาฐะว่า " วิวิจฺเจว
กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ " นี้ เป็นอันดับแรก
[แก้อรรถองค์ฌาน บท สวิตกก์ สวิจาร์]
ก็แลพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงองค์ที่พึงละแห่งปฐมฌานด้วย
เพราะเหตุที่โทสะ กับ โมหะ มีอารมณ์ต่างกัน แต่ในที่นี้แสดงไว้แต่อารมณ์ของ
โทสะอย่างเดียว คืออฆาตวัตถุ มหาฎีกาจึงแสดงอารมณ์ของโมหะเพิ่มเติมไว้ดังนี้
ทุกฺขาทิปพฺพนตาทิเภทวิสยสฺส โมหสฺส ซึ่งโมหะอันมีประเภทแห่งความไม่รู้เช่นไม่รู้
ส่วนเบื้องต้นแห่งทุกข์เป็นต้นอารมณ์