ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ - หน้าที่ 56
ไปด้วยอปรัณณชาติ มีข้าวฝ้าง และลูกเดือย และปลายข้าวเป็นต้น
เครื่องแกงประกอบด้วยเปรียงเก่า น้ำผักดอง และผักแก่ๆ อย่างใด
อย่างหนึ่งก็ได้ พอทำท้องให้เต็มก็แล้วกัน ( นั่นแล ) เหมาะ
แม้อิริยาบถสำหรับคนราคจริตนั้น ก็เป็นการยืน หรือจงกรม
( นั่นแล ) ควร
อารมณ์ ( กรรมฐาน ) เล่า ก็เป็นบรรดาวรรณกสิณ
เป็นต้นอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่สีไม่สด (นั่นแล ) ควร
นี้แล เป็นสัปปายะของคนราคจริต
[สัปปายะของคนโทสจริต
สำหรับคนโทสจริต เสนาสนะ เป็นเสนาสนะที่ไม่สูงนัก ไม่
เตี้ยนัก มีร่มเงาและน้ำพร้อม ฝาเสาและบันไดได้สัดส่วน มีการแต่ง
ด้วยไม้ดอกและไม้เถาไว้งดงาม เรียบร้อย พราวไปด้วยจิตรกรรม
ต่างๆ อย่าง พื้นที่เรียบสนิทและนุ่ม ประดับเพดานด้วยพวงดอกไม้
และผ้าสีวิจิตร มีเครื่องลาดและเตียงตั่งอันสะอาดน่ารื่นรมย์ใจ ที่เขา
ปูลาดไว้ดี มีดอกไม้เครื่องอบและเครื่องหอม วางไว้เพื่ออบกลิ่นในที่
นั้นๆ ราวะพรหมวิมาน เสนาสนะไรเล่า เพียงแต่เห็นเท่านั้น ก็ยัง
ปีติปราโมชให้เกิดได้ เสนาสนะเช่นนี้ ( แล ) เป็นสัปปายะ
ส่วนทาง ( เข้าไป ) แห่งเสนาสนะนั้น ควรเป็นทางปลอด
มหาฎีกาว่า คนอ่านจะเผลอเข้าใจคำสัปปายะเป็นสุขสบายไป ท่านจึงไข
ความไว้เตือนสติว่า เอวมสฺส กิเลสสมุทาจาโร น โหติ อธิปปาโย ที่ว่า นี่เป็นสัปปายะ
ของคนราคจริตนั้น มีอธิบายว่า อย่างนี้กิเลสของเขาจึงจะไม่ฟุ้งขึ้น ดังนี้ คำว่า เป็น
สัปปายะ ก็หมายความว่า เหมาะแก่การที่จะกำหราบกิเลสที่เป็นเจ้าเรือนของเขานั่นเอง