ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคเดิม-ปฐมสมันตามาสิกาเปล ภาค ๒ หน้า ๕
และชื่อว่าบุคคล (ผู้อยู่คองเรือน) อะพึงประพฤติให้เป็นสุขธีโดย
ส่วนเดียว เพราะจะต้องทำมีเศรษาหมองด้วยมลทินคืออิสแม้ตลอดวัน
หนึ่ง วงจนถึง ธรรมจิต (คือจิตที่เคลื่อนจากภาพ)
บทว่า สงบจิตดี ความว่า จะพิงปฏิบัติให้เป็นจงสุขที่ขัดแล้ว
คือให้มีส่วนเปรียบด้วยสง่าที่ขัดแล้ว.
หลายบ่าวว่า อภิ น สุกรี อาชญาสัตฎ ความว่า อัน
บุคคลผู้ยังอยู่ในท่ามกลางแห่งเรือน จะประพฤติดีพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์
โดยส่วนเดียว ให้บริสุทธิ์โดยส่วนเดียว จุดดังนี้ขัดแล้วเป็นของทำไม่
ได้ง่าย ใจหนอ! เราจะพิงปลนผมและหนวด ครรถคือจูนุ่มผ้า
กาละยะ เพราะเป็นของคงแล้วด้วยรสมแห่งน้ำฝาด คันเป็นของสมควร
แก่ผู้ประพฤติดีพรหมจรรย์ แล้วออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต.
ก็เพราะกลกิจกรรมและพาณิชยกรรมเป็นต้น ที่เป็นประโยชน์แก่กุศล
แก่เรือน ท่านเรียนว่า "อนาคริย" ในบทว่า "อนาคริย" นี้ และ
กลกิจกรรมพอเป็นอยากรรมเป็นต้น ย่อมไม่มีในบรรพชา เพราะเหตุนี้
บรรพชา บัดทิตึงรู้ว่า "อนาคริย" ซึ่งการบรรพชาไม่มีอิสโก่ก่อฤู
แก่เรือนนั้น.
บทว่า "ปุพพูเมีย" แปลว่า พิงเข้าถึง.
(สุทธิหนึ่งล้นบุตรบุญกุญแจบรรพาขะพระผู้มีพระภาคเจ้า)
หลายบ่าวว่า อธิจูฏฐิตาย ปริสาย เยน ภควา เตณปลสูมิ
ความว่า สุทินนท์เมื่อบริยยังไม่ลูกไป ก็ย่อมไม่ได้ลูกบรรพชา
๑. ธรรมจิต หมายถึงจิตดี คืออจิตเคลื่อนจากภาพ หมายถึงจิตนี้ชีวิต. คู่กาสรัตตกิเปนปีนี้ ๒/๔.