ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (คง) - ปฐมมัณฑปสถากาเปล ภาค ๒ - หน้าที่ 52
ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้า จุติช่างดอกไม้กระทาฐะเบียบ
ดอกไม้หว่าน จุติช่างแก้วผู้จัดพวกแก้ว (ให้จงจาง) เมื่อลองทรงคุณ
บุคลลั่งหลาย ผู้พูดในอาสากงประสงค์จะค้านด้วยวัจจะยังมีใน
สัมปรายภาพ จะทรงแสดงโทษมีประกอบมายาจะทรงยังบุคคลผู้ใด
ต่อการศึกษาอยู่ในสงวาง บางพวกให้ประดิษฐานอยู่ในพระอรหันต์
บางพวกให้ตั้งอยู่ในอนาคามิผล สกทาคามิผล และโสดาปัตติผล จะ
ทรงยังบุคคลทั้งหลายแม่ผู้ปรารถนาอุตุนิสัยใฝ่ประดิษฐานในทรงสวรรค
จิงทรงทำธรรมเทนา ให้มีทิฑกเป็นประมาณบ้าง มีชิมินิกาย
เป็นประมาณบ้าง ในสถานทั้งหลายเช่นนี้ พระอุไตธะ หมายเอา
ธรรมเทนันั่น จึงกล่าวคํ่าว่า "ทรงทำธรรมมิกาถึงสมควรแก่สาขาบ
และสังวรนั้น ซึ่งอญฺโญมสาเทนะทบาและสังวรนันก็มีภูมิทั้งหลาย"
บทว่า เตน ทิ มีความว่า เพราะอธมาภาร ของพระสกัดน
อันเป็นตัวเหตุนัน.
ในบทว่า "ลิกขาบท" นี้ มีวิวัจฉันดำเนินต่อไปนี้:- ที่ชื่อว่า
ลิกขา เพราะอรรถว่า เป็นคุณชาติดับบุคคลพึงศึกษา ที่ชื่อว่า ทบท
เพราะอรรถว่า เป็นทางเป็นเครื่องอันบุคคลพึงถึง ทางเป็นเครื่องอัน
บุคคลพึงถึงแห่งลิกขา ชื่อว่า ลิกขาบท ความว่า "อุบายแห่งความ
ได้ลิกขา (ชื่อว่า ลิกขาบท)."
อีกอย่างหนึ่ง มีคำอธิบายว่า "ธรรมชาติเป็นบุคค คือเป็นที่อาศัย
เป็นที่ตั้งแห่งลิกขา (ชื่อว่า ลิกขาบท) คำว่า "ลิกขาบท" นั้น เป็น
ชื่อแห่งความสำรวมจากเมฆุณ เพราะเว้นจากเมฆุณ. จริงอยู่ เมฆุณสงวร
ท่านประสงค์เอาว่า "ลิกขาบท" ในบทว่า ลิกขาบท นี้ เพราะ