ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๒ ปฐมมัตตาปสาทกแขนฉันแปลภาค ๒ - หน้าที่ 198
สองบทว่า วสุอุปคุจิ ความว่า พระธนียะ ทำภูติญาณแล้วก็อยู่จำพรรษาในที่แห่งเดียวกันกับพระเทระเหล่านั้นเอง
สองบทว่า วสุอุจฉา ความว่า ภิกขุเหล่านี้เข้าพบพระธรรมในวันปฐมมัตตาแล้ววาระแห่งในวันนายวารณา ตั้งแต่วันปฐมมัตตา (แรม ๑ ค่ำ) ไป ท่านเรียกว่า "ผู้ออกพรรษาแล้ว." เป็นผู้ออกพรรษาแล้วด้วยวิธีอย่างนั้น
สองบทว่า ติกฺฺคุจฉิ ภินฺทิวา มีความว่า ภิกขุเหล่านี้หาได้ทำอากุจิให้เป็นอุณจุจุนด้วยการประหารด้วยไม้ค้ำเป็นต้นไม่ แต่ได้ร้องๆ บัง ไม และถาวัสเป็นต้นออกเสีย ด้วยระเบียบวัตร จริงอยู่ ภิกขุใด ได้ทำอากุจิไว้ในที่สุดแดนวิหาร ภิกษุนั้น ถ้าพวกภิกษาจักถิ่นมีอยู่ ก็ครอบอกลากิญจืองั้นเหล่านั้น พึงกล่าวว่า "ถ้ากิญจุฏิใดสามารถจะดูแลกิญจุฏิอยู่ได้, ขอท่านจงมอบให้แก่เธออันว่นนั้นแหละ" ดังนี้แล้วจงกล่าวไป. ถ้าภิกขุใด ทำอากุจิไว้ในป่า หรือไม่ได้ผูกยามา ภิกษุนั้นคิดว่า "เสนานะจิเป็นของบริโภคแก้กิญจุฏิแม่เหล่านี้" ควรถึงบังเสียดังไป อธิบายว่า "ภิกษุเหล่านี้สร้างกุฏิไว้ในป่าแล้วเมื่อไม่มีผู้กะพึงก็ยังบังครองก็ถีงบัง แล้วไม่พึงให้แก่บังอันนี้" อันนี้ หญิงาและไม้ที่เก็บไว้แล้ว สัตว์ทั้งหลายมีปลอกเป็นต้นตะกัดไม่ไดทั้งฝนก็จะรั่วไม่ได้ โดยประกาศ คิดครวญเก็บไว้โดยประกาศนั้น ควรนำเพื่อคุณวัตรให้บริบูรณ์ด้วยก็ว่า * หญิงาและไม้บัง จักเป็นอุปกรณ์แก่เพื่อนสหพรหมจรรย์ทั้งหลายญาติเล่าเที่ยวนี้ แล้วประสงค์จะอยู่" ดังนี้ จึงควรหลีกไป
สองบทว่า ชนปทาจิรำ ปกฺกมฺมิสู มีความว่า ภิกษุเหล่านั้น