ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ปฐมสมันปลาสำคัญแปล ภาค ๒ - หน้าที่ 146
ในคำว่า "หญิง ๑ จำพวก" เป็นคำนี้มีสัตว์ ๑๒ จำพวก
ซึ่งเป็นทั้งดินสมุด อันเป็นวัดดูแห่งปราชญ์ คือ สตรี ๓ จำพวก
อุดโภชญาณ ๓ จำพวก มันทะรา ๓ จำพวก นุบัง ๓ จำพวก
ในสัตว์ ๑๒ จำพวกนั้น สตรีและนุบังปรากฏชัดแล้ว ชนิดของ
บันเทาะกีและอุดโภชญาณ จักมีปรากฏในวรรณนาแห่งบรรพชา
ขั้นทะก: ส่วนในคำว่า "ผู้เสพเมถุนธรรมเฉพาะมรรคร" แห่งหญิง
มนุษย์" นี้ พึงทราบได้ความว่า "ในบรรคร แห่งหญิงมนุษย์" พึง
ทราบอย่างนี้ทุกๆ บท.
[มรรครที่เป็นวัดดูแห่งปราชญ์รวม ๓๑]
ก็มรรครเหล่านี้ทั้งหมดดีเดียว มี ๓๐ ล้วน คือของหญิงมนุษย์
มี ๓ มรรคร ของหญิงมนุษย์ ๓ มรรคร ของสัตว์วิดิฉานตัวเมีย
มี ๓ มรรครวมเป็น ๘ ของมนุษย์อุดโภชญาณเป็นกันนี้ ๓ ของ
มนุษย์บันเทาะกีเป็นกัน ๖ เพราะแห่งเป็นพวกละ ๒ มรรคร ๓ แห่งหญิง
มนุษย์ผู้ชายเป็นกันมี ๖ เหมือนกัน. ภิกษุเมื่อเสพเมถุน สอด
องค์ชาตของคนเข้าไปในบรรครวมที่รัญว่าเป็นมิตรเหล่านั้น มรรครใด
มรรคนึ่ง แม้เพียงแต่ดังเดิม ย่อมต้องปราศรัย. แต่เพราะเมื่อจะ
ต้อง ย่อมต้องค่ายมานติดเท่านั้น เว้นจากค่ายมานต้องไม่; เพราะ
เหตุนั้น พระผู้พระภาค เมื่อทรงแสดงลักษณะนั้น จึงตรัสพระดำรัส
ว่า "ภิคุณสุ สวนจิตต อุปฏิปา" ดังนี้เป็นกันน.
บรรดาแปลนั่น บวกว่า ภิกษุสุ ได้แก่ ภิกษุผู้เสพเมถุน
บทว่า สวนจิตต ในคำว่า "สวนจิตต อุปฏิปา" นี้ เป็นปฏิสนา-
วิกิตติ ลงในบรรดาสัตว์มีวิตติ. อธิบายว่า "เมื่อสวนจิตปรากฏแล้ว."