ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปะโยค๓- ปฐมสมันตปาฏิหาริย์ ภาค ๒ - หน้าที่ ๓๘๑
อย่างนี้ข้าพเจ้ากล่าวไว้แล้วในตอนต้นนั่นเทียว
เรื่องเรือนไฟดิงจากเรื่องนี้ไป มีเนื้อความดีงั้นนั้น
ในวาสาวดก ๆ เรื่อง มิวินิจฉัยดังนี้: กิจกุ้งหลายหล่านั้น
ให้อุปสมบททำให้เป็นของควร แล้วฉันแต่เมื่ออีกจะถือเอาเนื้อ
ซึ่งเป็นเคน พึงถือเอาเนือนี้หคือสัตว์เหล่านั้นกินเหลือทิ้งแล้ว ถ้าจาอ
จะให้สัตว์เหล่านั้น ซึ่งกำลังกินอยู่ให้ถึงไปแล้วถือเอา แม่เนื้อก็เป็น
เคนมั่น คืรถว. แต่ไม่ควรถือเอา เพื่อประโยชน์แก่การคุ้มครองตน
และเพื่อความอึดไปในสัตว์อื่น
ในเรื่องแจกข้าวสุก ของควรเคี้ยว ขนม อ่อย และผสมพลับ
มีวิจัยฉันดังนี้: กิจกุ้งบุคคลซึ่งไม่มีต้นว่า 'ท่านจงให้ส่วนของกิบุ
รูปลอื่น "
สองบทว่า องคัล อุดุล์ ความว่าเธอได้กล่าวมูลสวาท
คือเอาส่วนที่ไม่มีตัวบุคคลเป็นมูลอย่างเดียว เธอหาได้ถือเอาส่วนนัน
ด้วยใจจิตไม่ เพราะเหตุนันนั้นแด พระผู้มีพระภาคเจ๋จึงไม่อิสลาม
ว่า "เธอมีตกอย่างไร ?" ตร่าว่า "เป็นปาติ ตี" เมื่อเธอกล่าวว่า
"ท่านจงให้ส่วนของกิทูป้อนอีกร" วัดดาแห่งปารมี ย่อมไม่ปรากฏ
และพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมไม่อิสลามในฐานะนี้นี้ แต่ม้าขั้นนี้
จะพึงเป็นวัตถุแห่งปารมีไซร้ ก็พึงเป็นทุกกฏเท่านั้น เช่นเดียวกันกับ
เป็นทุกกฏ ในเพราะการดูอาแซวน ฉะนี้แล ความสงเคราะห์ในเรื่องนี้
มีเท่านี้
ส่วนความผิดดาร พึงทราบดังนี้: ก็ส่งใดเป็นของมีอยู่แห่ง
สงมั่นเทียว เมื่อสิ่งนัน อนิทกษูงสงสมมติ หรือมิได้สมดีกตา